ศาลส่งตัว “ดิมิทรี” หนุ่มรัสเซียแฮกระบบการเงินเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐ หลังรับโทษในไทยคดีฟอกเงินให้จบสิ้นก่อน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 ก.พ.62 ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน หมายเลขดำ อผ.5/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ เป็นโจทก์ฟ้องนายดิมิทรี ยูเครนสกี (Dmitry Ukrainsky) อายุ 47 ปี สัญชาติรัสเซีย เป็นจำเลย เรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน
กรณีจำเลยกับพวกได้สร้างและส่งมัลแวร์ไปยังระบบของผู้เสียหาย เจาะระบบโอนเงินผู้เสียหาย ประเทศต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อังกฤษ อิตาลี และเยอรมนี โดยระบบการเงินของผู้เสียหายจะโอนเงินอย่างไม่ถูกต้องจากบัญชีของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีของพวกจำเลยที่โอนเข้าบัญชีในประเทศไทย จนสูญเงินกว่าพันล้านบาท
ต่อมาทางการสหรัฐฯ ได้สืบสวนตั้งแต่ปี 2557 พบข้อมูลการโอนเงินเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง ต่อมาพบจำเลยหนีมากบดานที่พัทยา จ.ชลบุรี เปิดบริษัทท่องเที่ยวและให้เช่าเรือยอชต์ จึงประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามจับกุมจำเลยได้ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันฟอกเงิน เทียบเท่ากฎหมายไทยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 60 ซึ่งกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่ต่ำกว่า 1 ปี ไม่เป็นความผิดทางการเมือง คดียังไม่ขาดอายุความและเป็นกรณีเร่งด่วน จึงขอให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2472 ด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ
วันนี้ศาลเบิกตัวนายดิมิทรี จำเลย จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานแล้ว มีประเด็นต้องวินิจฉัย ถึงเหตุสมควรส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ อัยการโจทก์มีพยาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมจำเลยตามหมายจับ และข้าราชการสถานทูตเบิกความกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้รับหนังสือคำร้องจากสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดน พิจารณาแล้วเข้าหลักเกณฑ์สามารถส่งตัวจำเลยตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ อัยการโจทก์จึงยื่นฟ้องตามคำร้องของทางการสหรัฐอเมริกา คดีมีข้อหาสมคบกันฉ้อโกง ซึ่งกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่ต่ำกว่า 1 ปี ไม่เป็นความผิดทางการเมือง และไม่ขาดอายุความ
ส่วนที่จำเลยเบิกความปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำผิดนั้น ศาลพิจารณาข้อกล่าวหาร่วมกับกรณีที่ศาลแขวงสหรัฐอเมริกาได้ออกหมายจับจำเลยร่วมกับ น.ส.โอลกา โคโมวา (Olga Komova) สัญชาติอุซเบกิสถาน ซึ่งเมื่อทั้งสองถูกจับกุม น.ส.โอลกา ยินยอมถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และศาลสหรัฐอเมริกาได้พิพากษาลงโทษแล้วตามข้อหาเดียวกันจริง
ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน คดีมีโทษร่วมกันตามกฎหมายไทยข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน มีโทษจำคุกมากกว่า 1 ปี ไม่เป็นความผิดทางการเมือง จึงพิพากษาให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้หลังจากจำเลยรับโทษถึงที่สุดในคดีฟอกเงินอีกสำนวนในไทยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี