ศิษย์เก่าวารสารจันทรเกษมเดือด! ออกแถลงการณ์จี้มหาวิทยาลัยแจงโละ‘รางวัลพิราบน้อย’ จับยัดห้องเก็บของ

26 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง ศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ภาพรางวัลนกพิราบน้อย จากสมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ของมหาวิทยาลัยจันทรเกษมจำนวนมาก ถูกจัดเก็บอย่างไม่เป็นระเบียบ พร้อมแถลงการณ์ศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ระบุถึงสถานการณ์หลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เกิดการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นแขนงวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื่อใหม่, แขนงการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา รวมถึงแขนงวารสารศาสตร์ดิจิทัล อย่างไรก็ตามในโลกที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยน ทุกสื่อได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สิ่งที่ต้องไม่เปลี่ยนคือ ความสามารถในการจัดการเนื้อหา หรือสารที่ส่งออกไป และมหาวิทยาลัยย่อมเป็นแหล่งเพาะอุดมการณ์แห่งวิชาชีพในการจัดการสร้างบัณฑิตดังกล่าว

นอกเหนือจากอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ ที่ถูกตั้งคำถามจากแวดวงวิชาชีพ แวดวงวิชาการนิเทศศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาคมจันทรเกษม ถึงความเสื่อมถอยของอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ ที่ละเลยและมองข้ามสิ่งที่เรากระทำต่อเนื่องจนกลายเป็นประเพณี เช่น กิจกรรมประดับนก, กิจกรรมพิราบน้อย หรือแม้กระทั่งการทำหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ ที่ล้วนแต่เป็นหัวใจสำคัญในการบ่มเพาะนักศึกษาให้ออกสู่สนามวิชาชีพอย่างมั่นคง เราในฐานะศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ ได้รับรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง มีบางเรื่องที่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุด

ไม่เพียงแต่เราจะถูกละเลย แต่เรากำลังจะถูกโละทิ้งด้วยการนำถ้วยรางวัลการประกวดหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ ที่จัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และถ้วยรางวัลประกวดข่าวจากองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนที่มีชื่อเสียงอีกหลายสถาบัน ไปจัดเก็บในตู้เก็บของ แทนที่จะวางไว้เป็นเกียรติยศของคนวารสารศาสตร์ ถูกมองข้ามศักดิ์ศรีแห่งรางวัลในวิชาชีพ และไม่เหมาะสมที่ใช้เก็บรางวัลที่นักศึกษาวารสารศาสตร์ทุกคนต้องตรากตรำช่วยกัน ทำหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติที่ชื่อว่า “หนังสือพิมพ์จันทรเกษมโพสต์”

แม้ความสำคัญแห่งเกียรติยศจะไม่ได้อยู่ที่ถ้วยรางวัล แต่การได้รางวัลทางวิชาชีพของนักศึกษา ไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจในทักษะ แต่เป็นการปลูกฝังในอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จที่เกิดจากการรวมตัวของนักศึกษาวารสารศาสตร์ทุกชั้นปี เป็นประเพณีที่ทุกปีเราจะจัดตั้งกองบรรณาธิการ ช่วยกันขบคิดประเด็นข่าว ช่วยกันผลิตหนังสือพิมพ์ ที่ทั้งหมดต่างก็สะท้อนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมจันทรเกษม และรอบรั้วมหาวิทยาลัย ด้วยความหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจ และสะเทือนใจให้กับศิษย์วารสารศาสตร์เป็นอย่างมาก จึงขอให้ทางหลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง และดำรงไว้เพื่อเกียรติยศ ศักดิ์ศรี แห่งวิชาชีพวารสารศาสตร์

นายจีรพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า แม้ว่าสื่อจะเปลี่ยนไปจากหนังสือพิมพ์ไปสู่ทีวี และสู่ออนไลน์ แต่วิชาชีพสื่อสารมวลชนยังเป็นวิชาชีพที่สำคัญ และมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมก็ผลิตบุคลากรที่เป็นที่ยอมรับเข้าสู่สาขาวิชาชีพนี้จำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีศิษย์เก่าหลายคนทำงานด้านนี้อยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจให้กับศิษย์เก่า เพราะรู้สึกว่าสถาบันละเลยคุณค่าที่เคยสร้างกันมา การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นตามยุคสมัยเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่ไม่ควรต้องทิ้งหรือลบล้างของเก่าออกไป เราสามารถเก็บรักษาไว้เพื่อเรียนรู้ และสร้างความตระหนักถึงจรรยาบรรณของวิชาชีพที่เป็นกลไกสำคัญของสังคม อันเป็นเรื่องที่สากลให้การยอมรับ

“ผมและศิษย์เก่าหลายคน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของรางวัลที่ได้รับมาด้วยความภาคภูมิใจ อยากทราบว่าทางมหาวิทยาลัยฯ จะดำเนินการกับรางวัลพิราบน้อยอย่างไร หากต้องการให้หาที่จัดเก็บให้ หรือไม่ต้องการเก็บรางวัลไว้แล้ว ก็ขอให้ทางมหาวิทยาลัยแจ้งมา ศิษย์เก่าก็พร้อมจะไปรับรางวัลเหล่านั้นมา เพื่อหาที่จัดเก็บต่อไป”นายจีรพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์จันทรเกษมโพสต์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ นักศึกษาสาขาวารสารศาสตร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎ เคยได้รับรางวัลพิราบน้อยต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี โดยท้ายแถลงการณ์ศิษย์เก่าฯ ได้เปิดให้ศิษย์เก่าร่วมลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษมชี้แจงเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้สื่อข่าวจากหลายสำหนัก ซึ่งเป็นศิษย์เก่าร่วมลงชื่อในครั้งนี้ด้วย

ต่อมาศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชำฏจันทรเกษม ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “ด้วยสถานการณ์หลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เกิดการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นแขนงวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื่อใหม่, แขนงการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา รวมถึงแขนงวารสารศาสตร์ดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ในโลกที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยน ทุกสื่อได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สิ่งที่ต้องไม่เปลี่ยนคือ ความสามารถในการจัดการเนื้อหา หรือสารที่ส่งออกไป และมหาวิทยาลัยย่อมเป็นแหล่งเพาะอุดมการณ์แห่งวิชาชีพในการจัดการสร้างบัณฑิตดังกล่าว

นอกเหนือจากอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ ที่ถูกตั้งคำถามจากแวดวงวิชาชีพ แวดวงวิชาการนิเทศศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาคมจันทรเกษม ถึงความเสื่อมถอยของอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ ที่ละเลยและมองข้ามสิ่งที่เรากระทำต่อเนื่องจนกลายเป็นประเพณี เช่น กิจกรรมประดับนก, กิจกรรมพิราบน้อย หรือแม้กระทั่งการทำหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ ที่ล้วนแต่เป็นหัวใจสำคัญในการบ่มเพาะนักศึกษาให้ออกสู่สนามวิชาชีพอย่างมั่นคง

เราในฐานะศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ ได้รับรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง มีบางเรื่องที่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุด ไม่เพียงแต่เราจะถูกละเลย แต่เรากำลังจะถูกโละทิ้งด้วยการนำถ้วยรางวัลการประกวดหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ ที่จัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และถ้วยรางวัลประกวดข่าวจากองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนที่มีชื่อเสียงอีกหลายสถาบัน ไปจัดเก็บในตู้เก็บของ แทนที่จะวางไว้เป็นเกียรติยศของคนวารสารศาสตร์ถูกมองข้ามศักดิ์ศรีแห่งรางวัลในวิชาชีพ และไม่เหมาะสมที่ใช้เก็บรางวัลที่นักศึกษาวารสารศาสตร์ทุกคนต้องตรากตรำช่วยกัน ทำหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติที่ชื่อว่า “หนังสือพิมพ์จันทรเกษมโพสต์”

แม้ความสำคัญแห่งเกียรติยศจะไม่ได้อยู่ที่ถ้วยรางวัล แต่การได้รางวัลทางวิชาชีพของนักศึกษา ไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจในทักษะ แต่เป็นการปลูกฝังในอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จที่เกิดจากการรวมตัวของนักศึกษาวารสารศาสตร์ทุกชั้นปี เป็นประเพณีที่ทุกปี เราจะจัดตั้งกองบรรณาธิการ ช่วยกันขบคิดประเด็นข่าว ช่วยกันผลิตหนังสือพิมพ์ ที่ทั้งหมดต่างก็สะท้อนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมจันทรเกษม และรอบรั้วมหาวิทยาลัย ด้วยความหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจ และสะเทือนใจให้กับศิษย์วารสารศาสตร์เป็นอย่างมาก จึงขอให้ทางหลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง และดำรงไว้เพื่อเกียรติยศ ศักดิ์ศรี แห่งวิชาชีพวารสารศาสตร์