จับแก๊งตำรวจนอกรีตรับจ้างยัดยาบ้า เหยื่อแฉอดีตแฟนน้องเมียบงการ เหตุแค้นแพ้คดีทรัพย์สิน
28 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สามารถ คล่องดี รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ดม จ.สุรินทร์ ได้คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันยัดยาบ้า 135 เม็ด ให้กับ นายอุดร ใจแม่น อายุ 31 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ไปฝากขังยังศาลจังหวัดสุรินทร์ โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นตำรวจสังกัดหนึ่ง ทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 ม.ค.62 เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมยาบ้า 135 เม็ด ที่อยู่ในถุงพลาสติกห้อยหลังรถกระบะของนายอุดม โดยระบุว่ามีผู้แจ้งว่านายอุดร ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในกันชนหลังรถกระบะที่ส่งดอกดาวเรือง โดยนายอุดร และแม่ยาย คือ นางยิ้ม จันทร์โสร ต่างรู้มึนงงกับการจับกุมดังกล่าว ซึ่งนายอุดร ปฏิเสธว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด พร้อมกับแจ้งตำรวจ สภ.ดม ว่ามีขบวนการยัดยาเสพติดให้
ล่าสุดวันนี้ (28 ก.พ.62 ) ที่ สภ.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน. และ ป.ป.ส.ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม และลงตรวจสอบที่บ้านพักนายอุดร ใน ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์
จากการสอบถาม นายอุดร ใจแม่น เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 62 ก่อนเกิดเรื่อง 2 วัน ได้มีกลุ่มชายและพระสงฆ์ที่เคยเป็นคนรู้จักเพราะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนไปบวชจำพรรษาที่วัดใน อ.ศรีณรงค์ นั่งรถกระบะทำที่มาซื้อดอกดาวเรืองตัดจากสวนจำนวน 500 บาท
ถัดมาอีกวันในวันที่ 20 ม.ค. 62 เวลาประมาณ 17.00 น.พระรูปเดิมและกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดใหม่ นั่งรถกระบะซึ่งเป็นคนละคันกันกับวันที่ 19 ม.ค. ทำที่มาซื้อดอกดาวเรืองตัดจากสวนอีกจำนวน 500 บาท
จากนั้นในช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น. พระรูปดังกล่าวโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือว่ารถติดหล่ม ตนจึงได้นำรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ซึ่งเป็นรถของ น.ส.วิลาวัลย์ ไปช่วยชักลากดึงรถแก่กลุ่มคนดังกล่าว และเมื่อเดินทางไปช่วยเหลือกลับพบว่ารถไม่ได้ติดหล่มลึกแต่อย่างใด ช่วงที่ลงไปช่วยพบว่าคนที่มากับพระรูปดังกล่าวได้เดินไปท้ายรถของตน แล้วก้มๆเงยๆอยู่พักหนึ่งก็เดินออกมา แต่ตอนนั้นไม่ได้เอะใจสงสัยอะไร เพราะต้องเร่งใช้จอบเกลี่ยดินเพื่อให้รถของพระขับไปได้โดยเร็วประกอบกับเป็นเวลาค่ำแล้ว ภายหลังรถสามารถเคลื่อนที่ต่อได้แล้ว ฝ่ายพระและคนขับรถได้ออกไปจากที่เกิดเหตุโดยไม่มีการบอกล่าวใดๆ
พอขับรถกลับบ้านจนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกวัน ในวันเกิดเหตุตนอยู่ที่ ศาลากลางหมู่บ้านทางภรรยาได้โทร.ไปบอกว่า มีตำรวจมารอที่บ้าน พอตนกลับมาทาง จนท.ประมาณ 8 คนก็แสดงตัวขอตรวจค้นรถทันที โดยมี จนท.1นายตรวจค้นบริเวณในเก๋งของรถกระบะ ที่เหลือเดินทางไปตรวจหลังรถทันที ค้นพบยาบ้าออยู่ในถุงพลาสติกห้อยที่กันชนท้ายรถจำนวน 135 เม็ดและถูกจับดังกล่าว
ต่อมาทางตำรวจ สภ.ดม ได้เรียกคู่กรณีมาสอบถาม ก่อนจะติดตามจับกุมไว้ได้ 4 คน หลังจากเกิดเรื่องตนพร้อมด้วยพ่อตา และน.ส.วิลาวัลย์ เบญจมาศ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.62 ที่ผ่านมา
นายอุดร เผยถึงปมเหตุของการยัดยาบ้าให้กับตน เชื่อว่าน่าเป็นฝีมือของอดีตแฟนของน้องเมียตนที่เป็นชาวดูไบ หลังเลิกรากับ น.ส.วิลาวัลย์ เบญจมาศ อายุ 27 ปี มีการฟ้องร้องทางคดีเกี่ยวกับเรื่องการยักยอกทรัพย์สินและการผิดสัญญารวมถึงการหึงหวง แล้วฝ่ายน.ส.วิลาวัลย์ เป็นผู้ชนะ ทางอดีตแฟนหนุ่มได้เรียกน.ส.วิลาวัลย์ ไปหายังที่พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 62 เพื่อฉลองเทศกาลวันวาเลนไทน์กัน หลังจากนั้นวันที่น.ส.วิลาวัลย์ เดินทางต่อไปที่ จ.พังงา เพื่อฟังศาลพิจาณาคดีอีกครั้ง หลังจากเสร็จธุระที่ศาลได้เดินกลับบ้านพร้อมอดีตแฟนหนุ่ม
ทั้งนี้ ปรากฏว่าอดีตแฟนหนุ่มกลับนั่งแท็กซี่มารับ แทนที่ปกติต้องขับรถมารับเพื่อกลับที่พัก แล้วจู่ๆ อดีตแฟนก็ลงจากรถแท็กซี่กลางทางอ้างติดธุระ พร้อมกับให้เงินค่าเดินทางกับน.ส.วิลาวัลย์ ไว้ 10,000 บาท และเมื่อผ่านด่านตรวจริมถนน ก็มาโดนจับกุมเพราะพบยาบ้าในกระเป๋าหิ้ว 55 เม็ด แม้ทางน.ส.วิลาวัลย์ จะพยายามอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังแต่ก็ไร้ผล ถูกจับกุมและคุมขังอยู่ที่ จ.พังงา ได้ 1 สัปดาห์แล้ว
ทั้งนี้ หลังจากมีเรื่องการยัดยาบ้าเกิดขึ้น ได้มีการขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง และได้จับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมดรวม 4 รายด้วยกัน ทาง สภ.ดม ได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี