1 มี.ค.62 พ.ต.อ.นภดล กาญจนพันธุ์ ผกก.สน.หนองค้างพลู พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัว นายจิรายุส หรือ แบงค์ สวนมิ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน ที่ จ.79/2562 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ในฐานความผิด “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธ ขู่เข็ญเพื่อยื่นให้ซึ่งทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน” 1 ในผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนชิงถุงเงิน จากพนักงานขนเงินของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้เงินไป 7,270,000 บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ไปชี้จุด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชัน ฝากขังผลัดแรก โดยมีกำลังตำรวจคอยดูแลความปลอดภัย ตลอดการทำแผน
 
พ.ต.อ.นภดล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คุมตัว นายจิรายุส หรือ แบงค์ สวนมิ อายุ 20 ปี  มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนในคดีนี้ มี 7 จุด เริ่มจาก บริเวณห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ย่านเพชรเกษม เจ้าหน้าที่ได้ทำการจำลองเหตุการณ์การเข้าจี้ชิงเงิน ตั้งแต่แรกไปจนถึงเส้นทางหลบหนี  จากนั้นไปจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาบอกว่า นายทักษ์ดนัย หรือ กอล์ฟ ทำการเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์ และเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในซอยย่อยเยื้องซอยทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 16/1  
 
ขณะที่จุดที่ 3 เป็นพงหญ้าข้างทางใกล้ถนนบางแวก ที่ใช้เป็นสถานที่ซุกซ่อนเงินครั้งแรก ก่อนจะไปเปลี่ยนเป็นรถกระบะ ที่มานำเงินไป  จุดที่ 4 อยู่ใต้สะพานข้ามคลองทวีวัฒนา ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งเป็นจุดที่นำปืนไปโยนทิ้ง  จุดที่ 5 เป็น เกรสต์เฮ้าส์ ภายในซอยโชติวิจิตร ย่านถนนบางบอน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ 2 ที่นำเงินไปเก็บพักไว้ 1 คืน  จุดที่ 6 อยู่หลังวัดหลักสาม เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำเสื้อผ้าใส่ถุงใส่หินถ่วงน้ำหนักโยนลงคลองหลังวัด และจุดสุดท้าย จุดที่ 7 ย้อนกลับไปที่ห้องเช่า ที่นายทักษ์ดนัย หรือ กอล์ฟ เช่าไว้เก็บเงินของกลาง ในซอยเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ 4/1-1 เขตหนองแขม และปกปิดไม่ให้นายจิรายุสรู้ว่าเงินทั้งหมดเก็บไว้ที่นี่ รวมถึงบ้านของนายทักษ์ดนัย ที่ยืนยันว่า ได้นำเงินจากการชิงทรัพย์เมื่อปี 2560 ไปซื้ออยู่อาศัย
 
ระหว่างการทำแผน นายจิรายุส หรือ แบงค์ ให้การกับตำรวจชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับว่า นายทักษ์ดนัย เป็นคนจัดการทั้งหมด ทั้งการเปลี่ยนแปลงสีรถ การโยนหลักฐานต่างๆ ทิ้ง และให้เงินกับนายจิรายุส เพียง 3-4 พันบาทเท่านั้น ซึ่งภายหลังการทำแผนครบทั้ง 7 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองค้างพลู ได้ควบคุมผู้ต้องหาส่งให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ รับไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต เพื่อเร่งทำแผนประกอบคำให้การให้เสร็จสิ้น ก่อนนำกลับมาส่งที่ สน.หนองค้างพลู อีกครั้ง เพื่อให้พนักงานสอบสวน นำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชันฝากขังในช่วงบ่ายวันนี้
 
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉรินะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ยืนยันว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ หลังทราบร่องรอยการหลบหนีของคนร้ายว่า ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ตามรายงานข่าวยังมีข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ นายทักษ์ดนัย หรือ กอล์ฟ ผู้ต้องหาตามหมายจับยังกลับไปส่งภรรยาไปทำงาน ก่อนจะขาดการติดต่อและหลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่า ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว แต่เชื่อว่า ยังคงอยู่ในประเทศไทย ชุดสืบสวนได้ประสานไปยังด่านคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการหลบหนี ส่วนการสืบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนในบริษัทฯ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ทั้งก่อนและหลังลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์มีการติดต่อกับใครหรือไม่อย่างไร โดยข้อมูลในส่วนนี้ไม่ขอเปิดเผย
 
“จากการสอบปากคำ นายจิรายุส หรือ แบงค์ ให้การยอมรับว่าเคยก่อเหตุลักถุงใส่เงินจากรถขนเงินของบริษัท Brinks จำกัด จำนวน 2 ถุง เป็นเงิน 6 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถด้านนอกห้างเซ็ลทรัล เวสเกต สาขาบางใหญ่ เมื่อปี 2560 โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและสืบสวนว่า ทั้งสองเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร โดยเฉพาะคนในบริษัทฯ มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนพฤติการณ์ของคนร้ายที่ดูเป็นมืออาชีพส่วนหนึ่งเชื่อว่าเลียนแบบมาจากภาพยนตร์”