25 มี.ค.62 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรามการคุรุสภา ว่าที่ประชุมมีมติให้มีการสรรหาบุคคลให้ดำรงค์ตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา โดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเร็วๆนี้ มีรองปลัดศธ.เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฏหมายพิจารณาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครก็จะพยายามปิดกว้างให้ผู้สมัคร ก็ขอเชิญชวนผู้ที่มีคุณสมบัติสมัครได้ที่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา คาดว่าจะเปิดรับสมัครได้ภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นก็จะส่งมาที่คณะกรรมการกรั่นกรองคุณสมบัติ โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข รัฐมนตรีเป็นผู้กำหนด ซึ่งก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ใครก็ได้ที่ไม่ผิดคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.สภาครู ซึ่งตามกรอบเวลาจะสรรหาให้เสร็จทันในรัฐบาลนี้
“ผมจะเปิดรับสมัครเร็วก็จะหาว่าผมรวบรัด เพราะติดเทศกาลสงกรานต์ ตั้งใจว่าจะขยายเวลาให้หากไม่มีผู้มาสมัคร ซึ่งข้าราชการทุกคนมีสิทธิ์มาสมัครได้หมด รวมถึงคนนอกที่อยากสมัครก็เชิญชวน แต่หากหาคนไม่ได้จริงๆก็ให้กรรมการสรรหาพิจารณาด้วย เพราะอยากได้คนมาทำงานจริงๆ”
จากนั้น นพ.ธีระเกียรติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาคครูและบุคลากรทางการศึกษา( สกสค.) พร้อมกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการสรรหาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้า ของ สกสค. ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 17/2560 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 7/2558 ซึ่งตนจะประกาศหลักเกณฑ์สรรหาภายในสัปดาห์นี้
ส่วนที่มีเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ว่าตนเร่งสรรหาตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. เลขาธิการคุรุสภา และผอ.องค์การค้า ในช่วงหลังเลือกตั้งเสร็จนั้น ตนไม่ได้เร่งสรรหา ทุกอย่างมีขั้นตอกระบวนการอยู่แล้ว อีกทั้งตนได้เคยประกาศไว้ 1 เดือนที่แล้วว่าจะทำการสรรหาทั้ง 3 ตำแหน่งนี้ และที่ผ่านมาก็ปรึกษากับ พล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. และผู้ที่เกี่ยวข้องมาตลอด และการที่จะมีการสรรหาในช่วงหลังเลือกตั้งถือเป็นจังหวะที่ดีและเหมาะที่สุดแล้ว ไม่ได้เป็นการรีบเร่ง เพราะทั้ง 3 ตำแหน่งปัจจุบันเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งหากมีนักการเมืองใหม่เข้ามาบริหาร แล้วย้ายผู้บริหารไปมาแล้วใครจะดูแลงานที่เขาทำมาในอดีต
“ไม่ใช้ผมจะมารีบเร่งตั้งอะไร แต่มีกระบวนการอยู่แล้ว และกว่าจะสรรหาเสร็จต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน ถ้าจะเร่งผมควรเร่งก่อนหน้านั้น และอย่าลืมว่าก่อนหน้านั้น ผมก็พยายามสรรหาแต่งตั้งมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ถูกทำให้เป็นเรื่องการเมืองหมด ทั้งกล่าวหาว่าล็อกสเปก ถ้าผมล็อกสเปกผมทำไปก่อนหน้านั้นแล้ว และกฎหมายก็กำหนดไว้ว่าในกรณีที่เห็นสมควร ให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ประกาศการสรรหา ดังนั้น ผมก็เห็นสมควรตอนนี้จึงให้มีการสรรหา ผมอยากให้มีคนดีมาดูแลคนดีต่อไป ถ้าผมไม่ทำก็จะมีคำถามกลับอีกว่ารัฐมนตรีไปซูเอี๋ยกับพวกที่อยู่หรือไม่ และถ้าจะรอตัวจริงแล้วเมื่อไหร่ เพราะกฎหมยใหม่ก็ยังไม่เสร็จ จะแก้ก็ต่อเมื่อล้อ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ออกมา ซึ่งต้องใช้เวลา และยังไม่มีวี่แววด้วย และเมื่อกฎหมายใหญ่ออกมาแล้วก็ต้องทำกฎหมายลูกล้อตามถึง 2ปี
ขณะที่ สกสค.และองค์การค้า มีหนี้ มีงานสำคัญ จึงต้องสรรหาเลขาธิการ สกสค.และผอ.องค์การค้าเข้ามาดูแลบริหารจัดการ เพราะถ้าผมไม่ทำ ในทางตรงกันข้ามผมยิ่งแย่ ซึ่งบางคน เข่น นายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการ ศธ.ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้า จะเกษียณอายุราชการแล้วในเดือนตุลาคม นี้แล้ว เพราะถ้าการเมืองใหม่เข้ามา แล้วตั้งคนของเขาเข้ามาแล้วใครเสียหายองค์การค้าเสียหายหนักเลย ผมจึงอยากให้ดูดีๆ คนที่มองว่าผมเร่งรีบสรรหาคือคนที่เสียประโยชน์หรือไม่ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา ผมทราบปัญหาขององค์การค้าและสกสค.ดี จึงจะสรรหาตัวจริงเพื่อทำงานไม่ผิดเพี้ยนจากรากฐานที่วางไว้ จึงไม่ต้องกลัว เพราะผมยุติธรมที่สุดแล้วทั้งความชอบธรรมและกฏหมาย” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ที่ประชุมได้อนุมัติขยายระยะเวลาการยืมเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษ โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) จำนวน 300 ล้านบาท เพื่อจัดสรรสวัสดิการช่วยเหลือสมาชิก ช.พ.ค. และสมาชิก ช.พ.ส. ที่มีอายุ 75 ปี หากต้องการให้สมาชิกสำรองจ่าย ทาง สกสค.จะสำรองจ่ายให้ก่อน ทั้งนี้ ที่ประชุมให้ สกสค.ไปพิจารณาปรับลดอายุสามาชิกที่สามารถขอสำรองจ่ายด้วย เนื่องจากเห็นว่าอายุ 75 ปีนั้นนานเกินไป ซึ่งตนจะตั้งคณะทำงานไปศึกษากำหนดอายุสมาชิกใหม่ต่อไป
“นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ สกสค.จ่ายหนี้โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เนื่องจากทางโรงพยาบาลครูใช้บริหารห้องแล็ปจากโรงพยาบาลแต่ไม่ได้ดำเนินการทำสัญญาณจัดซื้อจัดจ้างให้ถูกต้อง ซึ่งทางโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ได้แจ้งหนี้มาให้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าสกสค.มีหนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2562 จำนวนเงิน 1.8 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมได้ให้ สกสค.ไปตั้งกรามการสืบสวนว่าเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องละเว้นหรือไม่ปฏิบัติ เพื่อหาคนรับผิดชอบ และชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น” นายอรรถพล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี