ที่ผ่านมาติดต่อกันผมเล่ากิจกรรมแอปเตอร์ในประเทศเมียนมาและฟิลิปปินส์ ความจริงยังไม่จบนะครับ มีเรื่องเล่าอีกเยอะ แต่เพื่อสลับบ้างขอข้ามไปอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งแอปเตอร์ก็ได้ไปทำพิธีส่งมอบข้าวและแจกจ่ายกับประชาชนผู้ประสบภัย คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ลาวครับ
ช่วงกลางปี 2018 ผมได้รับเชิญจากทางการลาว ให้ไปร่วมกิจกรรมแจกจ่ายข้าว ซึ่งจัดขึ้นที่หมู่บ้านในแขวงคำม่วน และแขวงสะหวันนะเขต เป็นข้าวของญี่ปุ่นที่นำไปเก็บไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดภัยพิบัติ หรือที่เรียกว่าแบบ prepositionedstockpiled rice system และเมื่อครบกำหนด 12 เดือน จึงขออนุมัติคณะมนตรีแอปเตอร์เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่อดอยากขาดแคลน ผมเลยเชิญผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น คือ คุณโทอิดะ ไปด้วย
ปกติเวลาคณะเราไปลาว ก็จะบินจากกรุงเทพฯไปเวียงจันทน์ แต่คราวนี้เห็นว่าถ้าไปเวียงจันทน์ แล้วต้องนั่งรถยนต์จากเวียงจันทน์ ลงมาทางใต้ คงใช้เวลาเกือบเต็มวัน เราเลยเปลี่ยนแผนเป็นนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงนครพนม ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำโขงกับเมืองหลักของแขวงคำม่วน คือ เมืองท่าแขก แล้วนัดพบกับคณะของลาว ซึ่งจะเอารถมารับตรงจุดที่เราจะข้ามฟากโดยเรือไป เมื่อถึงสนามบินนครพนม มีเพื่อนผมซึ่งอดีตเป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยนครพนมมารับที่สนามบิน แล้วพาไปกินอาหารกลางวันแถวริมโขง จากนั้นก็พาไปส่งที่ท่าเรือข้ามฟาก
คุณโทอิดะรู้สึกจะตื่นเต้นมากที่จะได้มีโอกาสนั่งเรือข้ามพรมแดนประเทศ เป็นครั้งแรกในชีวิต พูดถึงเรื่องนี้ แกในฐานะคนญี่ปุ่นเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก แค่ยืนริมแม่น้ำโขงมองข้ามไปเห็นอีกประเทศหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้าม แกก็ว่าแปลกแล้ว เพราะแกบอกว่า ในชีวิตแกไม่เคยเห็นแบบนี้ ก็แน่ละ ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในมหาสมุทรอยู่ประเทศเดียวมองไปทางไหนเห็นแต่ทะเล เลยเป็นประสบการณ์ที่ประหลาดสำหรับแกครับ
แต่โอกาสที่จะตื่นเต้นมากกว่านั้น โดยการข้ามเรือ กลับไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพราะเมื่อเราไปยื่นพาสปอร์ตเพื่อข้ามแดน เจ้าหน้าที่ ตม.นครพนม ปฏิเสธครับ เขาชี้แจงระเบียบทางการว่า เฉพาะคนไทยกับคนลาวเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามทางเรือได้ ส่วนคนญี่ปุ่น หรือ คนจากประเทศที่สาม เขาไม่อนุญาต อ้าว! ยุ่งละทีนี้ พวกเราไม่ทราบกันมาก่อนเลย คิดว่าใครก็ได้ แต่ก่อนผมก็เคยข้ามตรงนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง คิดว่าเสร็จละงานนี้ คงได้ปล่อยให้คุณโทอิดะบินกลับกรุงเทพฯคนเดียวแน่ๆ เพราะคณะแอปเตอร์คนไทยต้องเดินทางต่อด้วยมีนัดไว้แล้ว คนมารับก็กำลังคอยอยู่
ทว่า ก่อนจะโชคร้ายไปกว่านี้ เจ้าหน้าที่ ตม. แนะว่า ถ้าจะข้ามพรมแดนสำหรับคนประเทศที่สาม สามารถข้ามได้โดยให้เดินทางไปข้ามที่ด่านตรงสะพานมิตรภาพ ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร โอ้ ช่างโชคดีจริง อันนี้ถือเป็นความรู้ใหม่นะครับท่านผู้อ่าน เผื่อท่านจะพาคนต่างชาติที่ไม่ใช่ไทย ลาวไปเที่ยว คณะเราจึงนั่งรถรับจ้างแท็กซี่เหมาจ่าย 300 บาท ไปยังด่านสะพานมิตรภาพนครพนม พร้อมแจ้งทางผู้มารับคนลาวให้เปลี่ยนจุดไปรับคณะเราที่นั่น ก็จบปัญหาไปและสามารถเดินทางไปเมืองท่าแขกได้ตามที่กำหนด แต่คุณโทอิดะคงผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ได้ซึมซับบรรยากาศการนั่งเรือข้ามโขง ตามที่ตัวเองปรารถนา ซึ่งคืนแรกนี้จะเข้าพักที่โรงแรมริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับเมืองนครพนม เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปจุดแจกจ่ายข้าวในวันรุ่งขึ้น
การพักค้างคืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงแรงงานและสวัสดิการฯ ของลาว ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับแบบง่ายๆ ที่ห้องอาหารโรงแรม และท่านประธานที่มาร่วมงานนี้และจะเดินทางไปตลอดทริป คือ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการฯ สังเกตดูท่าน รมช.เป็นคนง่ายๆ ดูไม่ใหญ่โตและนั่งกินอาหารกับพวกเราแบบสบายๆ คุยกันแบบกันเอง การพูดคุยกับคณะลาว พวกเราก็สะดวกสุดๆ เพราะสามารถใช้ภาษาไทยได้เลย โรงแรมที่พักก็เป็นโรงแรมเก่าๆ ไม่หรูหราอะไร ทานอาหารกันสักพักก็เสร็จสิ้น ร่ำลากันไปพักผ่อนเพื่อตื่นเช้าไปทำงานในพื้นที่ซึ่งต้องเดินทางไกลอยู่ไม่น้อย เดี๋ยวสัปดาห์หน้าผมมาเล่าต่อถึงบรรยากาศและประสบการณ์สนุกๆ ในการไปแจกข้าวที่ลาวครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี