19 เม.ย.62 นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงจ.สงขลา และผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่น 22 จังหวัดชายทะเลกล่าวว่า วันนี้สมาคมประมงแห่งประเทศไทย (สปท.) เข้ารับฟังผลสรุปจากนายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมงเกี่ยวกับระเบียบการจ่ายค่าชดเชยแก่เจ้าของเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายประมง (เรือขาว-แดง) จัดกองเรือประมงตามกฏไอยูยู ซึ่งต้องนำเรือส่วนหนึ่งออกนอกระบบ หยุดทำประมง มาเกือบ4ปี เนื่องจากจำนวนเรือประมงมีมากกว่าทรัพยากรทางทะเล ซึ่งกรมประมงจะเปิดให้เจ้าของเรือขาว-แดง 305 ลำตามที่ประกาศรายชื่อไปแล้วนั้น มาเขียนเอกสารยืนยันความจำนงรับค่าชดเชยที่ประมงจังหวัดตั้งแต่วันที่ 22 – 30 เมษายน 62 โดยทางสมาคมประมงท้องถิ่นทั้ง 22 จังหวัดชายทะเลจะประสานงานและแจ้งข่าวให้ชาวประมงรับทราบ เมื่อคณะทำงานตรวจสอบเอกสาร ทำสัญญา ตรวจเรืออีกครั้งเพื่อยืนยันว่า ถูกต้องตรงลำ แล้วสามารถรับเงินค่าชดเชยงวดแรกร้อยละ 30 ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จากนั้นเจ้าของเรือต้องเสนอแผนทำลายเรือภายใน 45 วันนับจากวันเงินเข้าบัญชี อีกทั้งต้องคืนทะเบียนเรือให้กรมเจ้าท่า ทั้งนี้การทำลายเรือตามแผนต้องแล้วเสร็จใน 90 วัน หากเกิดเหตุขัดข้องต่อให้เวลาเพิ่ม 30 วัน

นายสุรเดช กล่าวว่า การทำลายเรือนั้นดำเนินการโดยเจ้าของเรือ แต่กรมเจ้าท่า ประมงจังหวัดจะติดตามทุกระยะจนกระทั่งเสร็จสิ้น บันทึกภาพเพื่อยืนยันว่า ทำลายเรือแล้วจริง จึงสามารถรับเงินค่าชดเชยที่เหลืออีกร้อยละ 70 ทั้งนี้กรมประมงกำหนดให้ดำเนินทุกกระบวนภายใน 15 กันยายน 62

“เจ้าของเรือประมง 22 จังหวัดชายทะเลที่ต้องนำเรือออกนอกระบบ ไม่สามารถประกอบอาชีพประมงได้ต่อไป ดีใจมากที่มีข้อสรุปเรื่องการจ่ายค่าชดเชยชัดเจน หลังจากที่รอมาเกือบ 4 ปีแล้ว ชาวประมงจำนวนมากที่ไม่สามารถออกเรือ ทำให้ขาดรายได้ บางรายต้องกู้หนี้ยืมสินมาเลี้ยงครอบครัว เรือกลุ่มขาวแดงถูกตรึงพังงามาตั้งแต่ปี 2558 แต่การจ่ายค่าชดเชยยืดเยื้อ จนกระทั่งผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่นได้ขอให้นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบเร่งช่วยเหลือเมื่อปลายปี 61 ซึ่งทำให้เรื่องคืบหน้า จนกระทั่งครม. มีมติอนุมัติงบประมาณและสรุปแนวทางการจ่ายค่าชดเชยอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งทำให้เจ้าของเรือทั้ง 305 ลำดีใจเป็นอย่างมาก” นายสุรเดช กล่าว