แม่ข้องใจลูกชายมีเรื่องกับตำรวจ ก่อนถูกยิงดับปริศนา ลั่นไม่เผาศพจนกว่าได้ตัวมือปืน
21 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่าเมื่อคืนวันที่ 20 เม.ย.62 ที่ผ่านมา นางจำรัส รักษาเชื้อ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 13 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมสามี และญาติพี่น้อง ได้นำศพนายสุทัศน์ หรือเต๋า ประเสริฐ อายุ 23 ปี ลูกชายมาตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมตามประเพณี หลังจากที่นายสุทัศน์ถูกคนร้ายลอบยิงจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.30 น.คืนวันที่ 19 เม.ย.62 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางจำรัส ซึ่งเมื่อไปถึงเป็นเวลาที่ศพของนายสุทัศน์ ที่ถูกส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษกลับมาถึงบ้านพอดี นางจำรัสทนดูลูกชายไม่ได้ จึงเป็นลมล้มพับลงญาติได้นำขึ้นนอนบนแคร่ แล้วจู่ๆนางจำรัสก็ร้องไห้ขึ้นเสียงดัง ตะโกนสุดเสียง ซึ่งญาติพี่น้องเชื่อว่าเป็นวิญญาณของนายสุทัศน์มาเข้าสิงร่างของแม่ พร้อมกับร้องไห้ว่าทำเขาทำไม
ด้านนายชัยวัฒน์ รักษาเชื้อ อายุ 19 ปี น้องชายของนายสุทัศน์ เล่าว่า ตนและพี่ชายมีเรื่องเป็นคดีกับตำรวจ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ โดยตนและพี่ชายถูกแจ้งข้อหาว่าร่วมกันต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ เพิ่งไปขึ้นศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ไกล่เกลี่ยคดีมาในวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกฝ่ายตำรวจได้เรียกร้องเงินค่าเสียหาย หรือสินไหมทดแทน เป็นเงิน 460,000 บาท โดยการไกล่เกลี่ยตกลงค่าเสียหายกันอยู่ที่ 100,000 บาท ทั้ง 2 ฝ่ายพอใจจึงได้แยกย้ายกันกลับ แต่ก่อนที่จะกลับได้มีผู้หวังดีแจ้งให้ตนและพี่ชายระวังตัวไว้ เพราะมีคนปองร้าย
นายชัยวัฒน์ เล่าต่อว่า หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายพอใจ ทางฝ่ายตนมีพี่ชาย ลุง ป้า น้า อา ยังมีเงินไม่พอ จะขอนัดจ่ายใน 2 เดือนหลังจากวันไกล่เกลี่ย กระทั่งเดินทางกลับ และเวลาประมาณ 23.30 น. พี่ชายก็มาถูกยิงตาย โดยกระสุนเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด สะบักซ้าย 1 นัด จนพี่ชายล้มลงจมกองเลือด เชื่อว่ามือปืนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นมืออาชีพ ซุ่มอยู่ใต้ต้นฝรั่งและมีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ตั้งบังอยู่ จุดนั้นห่างจากที่พี่ชายยืนอยู่ประมาณ 10 เมตร
นายชัยวัฒน์ เล่าอีกว่า เรื่องที่มีปัญหาเป็นคดีความกันอยู่นี้ เนื่องมาจากเมื่อวันก่อนงานลอยกระทงปี 2561 วันนั้นตนและพี่ชาย พร้อมเพื่อนรวมประมาณ 5-6 คน พากันไปเที่ยวงานหมอลำก่อนลอยกระทง พอไปถึงรู้ว่าไม่มีหมอลำ จึงได้ชวนกันกลับบ้าน โดยตนขับรถจักรยานยนต์คนหนึ่ง มีเพื่อนซ้อนท้าย ขับตามรถเพื่อนเป็นคันที่สอง เมื่อมาถึงระหว่างทาง มีตำรวจยืนเรียกรถอยู่ข้างหน้า ตนไม่เห็นเพื่อนที่ขี่รถคันหน้าได้เบรกรถกะทันหัน ตนเบรกไม่ทันจึงหักรถหลบออกทางขวาตั้งใจจะแซงขึ้นไป ขณะนั้นตำรวจที่ดักอยู่ได้ขว้างกระบองใส่ตน จนเพื่อนต้องกระโดดลงจากรถวิ่งหลบหนี ส่วนตนก็ขี่รถกลับไปทางสี่แยกบ้านจาน รถจักรยานยนต์ตำรวจก็ไล่ตามมา พร้อมกับมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตนกลัวจึงได้เร่งเครื่องหนีไปจนถึง ทางหลวงหมายเลข 24 ถนนสายโชคชัยเดินอุดม จึงได้เลี้ยวซ้ายไปหาพ่อกับแม่ที่นอนอยู่สวนที่ทุ่งนา บ้านโพนทอง หมู่ 13 ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์
เมื่อตนเลี้ยวรถเข้าไปที่สวน ตำรวจก็ยังขับรถไล่ตามเข้าไป ตนเรียกพ่อแม่ให้ออกมาช่วย บอกว่ามีคนไล่ฆ่า พ่อแม่ออกมาเห็นว่าเป็นตำรวจในเครื่องแบบ แต่ดึกแล้ว จึงบอกว่าให้กลับไปก่อนพรุ่งนี้จะไปพบแล้วค่อยคุยกัน ถ้าลูกผิดจะยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ตำรวจไม่ยอมกลับ แล้วยังวิทยุเรียกกำลังมาเสริมอีก 2 คันรถกระบะ ตนจึงได้โทรศัพท์บอกพี่ชายว่าถูกตำรวจไล่ตามมาที่สวน พี่ชายพร้อมเพื่อนซึ่งขับรถตามหลังจึงพากันมาที่สวน มาถึงก็มีการผลักกันดันกันไปมา พี่ชายก็จะดันให้ตำรวจออกไปจากบ้าน ตำรวจก็จะเข้าไปในบ้าน เพื่อไปหาตน
เมื่อผลักดันกันไปมาพี่ชายเห็นว่าเป็นในบ้านของพ่อแม่ตัวเอง จึงคิดว่าจะป้องสิทธิของตัวเองจึงได้ใช้หมัดชกเข้าที่ใบหน้าตำรวจคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ตำรวจอีกคนจึงยิงปืน 2 นัดโดยที่ตนไม่รู้ว่ายิงไปทางไหน หลังจากที่มีเสียงปืนดังขึ้น ตนพร้อมกับพี่ชายและเพื่อนๆ ได้พากันหลบหนีไปทางด้านหลังบ้าน
กระทั่งรุ่งขึ้น พ่อกับแม่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อจะแจ้งความถูกตำรวจบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล และพยายามฆ่า เพราะมีการยิงปืน พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความ แต่ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจที่ถูกพี่ชายชกต่อย พ่อแม่จึงไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ จนกระทั่งอีก 2-3 วันต่อมา ตนพร้อมพี่ชายจึงเข้าพบกับพนักงานสอบสวน ซึ่งเพื่อนๆ ที่ไปที่บ้านด้วยไม่ได้ร่วมในการเข้าไปทำร้ายตำรวจ แต่ก็ถูกแจ้งข้อหาว่าร่วมกันด้วย
ต่อมาศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ได้นัดไกล่เกลี่ยคดีนี้ ในวันที่ 19 เม.ย.62 พ่อแม่ พร้อมกับตนและพี่ชายก็ได้ไปไกล่เกลี่ยที่ศาล ทางคู่กรณีคือตำรวจ ได้เรียกเงิน 460,000 บาท จากการไกล่เกลี่ยได้ตกลงกันอยู่ที่ 100,000 บาท พ่อกับแม่นัดนำเงินมาจ่ายในอีก 2 เดือนข้างหน้า แต่ยังไม่ทันถึงวันนัดพี่ชายก็มีถูกยิงเสียชีวิตก่อน
ด้านนางจำรัส เล่าว่า ตอนที่ลูกคนเล็กขับรถหนีการไล่ล่าติดตามของตำรวจแบบไม่คิดชีวิต มาถึงบ้านที่สวน ลูกไม่ได้จอดรถ แต่ทิ้งรถล้มลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อกับแม่ในบ้าน ตำรวจจะเอาเรื่องกับลูกให้ได้ ตนบอกว่าเช้าค่อยคุยกัน แต่เขาก็ไม่ยอม ตอนนี้ลูกชายคนโตถูกยิงตายแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบติดตามคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ถ้ายังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องคดี ตนจะยังไม่เผาศพลูกจนกว่าคนก่อเหตุจะถูกจับกุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี