จารึก‘พระสุพรรณบัฏ’

สมพระเกียรติ

พิธีศักดิ์สิทธิ์วัดพระแก้ว

เตรียมทูลเกล้าฯถวาย4พค.

คาด2แสนคนเฝ้าฯรับเสด็จ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯผู้แทนพระองค์เสด็จพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่พระอุโบสถวัดพระแก้ว รอทูลเกล้าฯ ถวายพระมหากษัตริย์ 4 พฤษภาคม ด้านกอร.พระราชพิธีฯเชิญชวนประชาชนร่วมรับเฝ้าฯรับเสด็จและชื่นชมพระบารมี คาดมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง2แสนคน กทม.เตรียมพร้อมที่พัก อาหารน้ำดื่มบริการเต็มที่

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 เมษายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อผู้แทนพระองค์ เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร

จากนั้น นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน โหรหลวง ผู้จารึกดวงพระบรมราชสมภพ นายสุนทร วิไล ช่างศิลป์ประจำพระองค์ ผู้แกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล พร้อมเจ้าพนักงานอาลักษณ์ เข้าไปกราบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วหันหน้าสู่พระราชอาสน์ที่ทอดไว้ ถวายบังคม 3 ครั้ง คำนับผู้แทนพระองค์ แล้วไปนั่งที่โต๊ะจารึกดวงพระบรมราชสมภพ โต๊ะแกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล และโต๊ะจารึกพระสุพรรณบัฏ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาศีล

สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ถวายศีล ผู้แทนพระองค์เสด็จไปทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน บนโต๊ะจารึกดวงพระราชสมภพ โต๊ะแกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล และโต๊ะจารึกพระสุพรรณบัฏ ตามลำดับแล้ว เจ้าพนักงานอาลักษณ์นำสายสิญจน์คล้องคอ หันหน้าสู่มงคลทิศ ครั้นได้เวลาพระฤกษ์ 09.49 น. โหรหลวงลั่นฆ้องชัยให้สัญญาณ เจ้าพนักงานอาลักษณ์ลงมือจารึกพระสุพรรณบัฏ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่โหรหลวงจารึกดวงพระบรมราชสมภพ ช่างศิลป์ประจำพระองค์แกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล เการนี้ พระสงฆ์ 10 รูปเจริญชัยมงคลคาถา โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์

กระทั่ง เวลา 09.49 น.โหรหลวงจารึกดวงพระบรมราชสมภพ ช่างศิลป์ประจำพระองค์แกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล เจ้าพนักงานอาลักษณ์จารึกพระสุพรรณบัฎ เรียบร้อยแล้ว นำสายสิญจน์คล้องคอออก พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ถวายน้ำเทพมนตร์ เจิมดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจำรัชกาล และพระสุพรรณบัฏ เสร็จแล้ว โหรหลวงพับแผ่นดวงพระราชสมภพ พันด้วยไหมเบญจพรรณ เสร็จแล้วแยกบรรจุลงในพระกรัณฑ์ทองคำลงยาราชาวดี และเจ้าพนักงานอาลักษณ์เชิญพระสุพรรณบัฏห่อผ้าแพรแดง บรรจุในพระกรัณฑ์ทองคำลงยาราชาวดีอีกองค์หนึ่ง แล้วเชิญบรรจุลงในหีบทองคำลงยารองรับด้วยพานทองคำลงยาสองชั้น ปิดคลุมพื้นตาดปักดิ้นเลื่อม

ช่างศิลป์ประจำพระองค์ ผู้แกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล บรรจุพระราชลัญจกรประจำรัชกาลลงในถุงแพรแดง ใส่ไว้ในพานทองปิดคลุมพื้นตาดปักดิ้นเลื่อม แล้วเชิญดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจำรัชกาล และพานพระสุพรรณบัฏไปวางไว้ที่ธรรมาสน์ศิลา ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม รอการเชิญไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑล ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระมหากษัตริย์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก่อนจะทูลเกล้าฯถวายเครื่องมงคลสิริเบญจราชกกุธภัณฑ์ เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์ เครื่องพระราชูปโภค และพระแสงราชศัสตราวุธ ตามลำดับ

จากนั้นโหรหลวงจารึกดวงพระบรมราชสมภพ ช่างศิลป์ประจำพระองค์ แกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล และเจ้าพนักงานอาลักษณ์จารึกพระสุพรรณบัฏ เข้าไปกราบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ถวายบังคมพระราชอาสน์ 3 ครั้ง และคำนับผู้แทนพระองค์ พระสงฆ์ 10 รูป ถวายพรพระจบแล้ว พล.ร.อ. หม่อมเจ้าปุสาน สวัสดิวัตน์ ผู้แทนพระองค์เสด็จไปทรงประเคนสำรับภัตตาหารแด่พระสงฆ์ทั้ง 10 รูป ทรงพระเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ทรงกรวดน้ำ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถ

เจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช บุคคลสำคัญร่วมในพิธี อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายพรเพชร พิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และข้าราชการรับแว่นเวียนเทียนสมโภชดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจำรัชกาล และพระสุบรรณบัฏ ครบ 3 รอบแล้ว ขณะที่พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เจิมดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจำรัชกาลและพระสุบรรณบัฏ ที่ประดิษฐานบนธรรมาสน์ศิลา ผู้แทนพระองค์เสด็จไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ถวายความเคารพพระราชอาสน์ แล้วเสด็จกลับ

สำหรับพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร เป็นเครื่องมงคลแสดงถึงพระบรมราชอิสริยยศ พระเกียรติยศ และพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกร ถือเป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระมหากษัตริย์ เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่สืบต่อกันมาตามโบราณราชประเพณี โดยพระราชพิธีดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม

วันเดียวกัน พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และนายไพโรจน์ สันตนิรันดร์ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงหลังประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก (กอร.พระราชพิธีฯ) ถึงการเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่เดินทางเข้ามาร่วมชื่นชมพระบารมี ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นายไพโรจน์ กล่าวว่า กทม.ตั้งคณะกรรมการ 12 คณะขึ้นมาดูแลรับผิดชอบการให้บริการประชาชนทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขา และที่พัก โดยตั้งจุดบริการอาหารรอบเส้นทางเสด็จ แต่ในส่วนใจกลางนั้นสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ดูแลดำเนินการ ทั้งนี้ รอบบริเวณมณฑลพิธีกำหนดให้มีจุดพักคอย 6 จุดตั้งโรงครัวพระราชทาน โดยภาคเอกชนร่วมสนับสนุน มีบริการอาหารเพียงพอสำหรับประชาชนที่คาดว่าจะเข้าร่วมพิธีฯประมาณ 160,000 คน - 200,000 คน เมื่อผ่านจุดคัดกรองแล้ว เรายังมีจุดพักคอย ที่มีบริการอาหารตามซอยต่างๆที่เราทำเป็นแก้มลิง อีกทั้ง ยังมีจุดบริการน้ำดื่มเต็มที่กำหนดไว้ประมาณ 90 จุด

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังจัดตั้งแท็งก์น้ำเพื่อให้ประชาชนนำขวดหรือกระติกน้ำมาบรรจุน้ำได้อีก 80 จุด พร้อมมีรถประปาไว้บริการน้ำเย็นอีก 8 คัน กระจายอยู่รอบงาน เพราะช่วงนี้อากาศร้อน

ส่วนเรื่องการให้บริการสุขานั้น นายไพโรจน์กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ไว้ 48 คัน กระจายตามจุดต่างๆ อีกทั้ง เตรียมสำรองไว้อีก 29 คันเสริมจุดที่ยังขาด ขณะที่สำนักงานเขตพระนคร ยังประสานประชาชนที่มีบ้านเรือนและร้านค้าเพื่อขออนุญาต ให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้ห้องน้ำได้ ขณะนี้มีอยู่ 68 หลังคาเรือน ที่ให้ความร่วมมือ โดยกรุงเทพมหานครจะติดสติ๊กเกอร์ไว้เป็นสัญลักษณ์ และจะเข้าไปสูบส้วม เข้าไปทำความสะอาดให้ก่อนถึงวันงาน และหลังจากวันงาน ก็จะเข้าไปสูบส้วมและทำความสะอาดให้อีกเช่นกัน พร้อมกันนี้ หน่วยงานราชการก็เปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้สุขาเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนเรื่องที่พักจัดไว้ที่อาคารกีฬาเวศน์ 1 และอาคารกีฬาเวศน์ 2 เขตดินแดง 1,000 คน โดยจัดเตรียมที่นอนห้องปรับอากาศและอาหารไว้คอยดูแล

พล.ต.ท.ไกรบุญกล่าวเพิ่มเติมว่า กอร.ประชุมเพื่อซักซ้อมเพื่อให้การบริการประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะประชาชนที่มาชื่นชมพระบารมี จะใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นานอาจจะหิว และต้องผ่อนคลายอริยาบท จึงอนุมัติตั้งโรงครัวพระราชทานเพิ่มบริเวณบริเวณลานคนเมืองกรุงเทพมหานคร และบริเวณมิวเซียมสยาม ฉะนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชน มาร่วมชื่นชมพระบารมีและเฝ้ารับเสด็จร่วมกันเพื่อเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศไทย

สำหรับการดูแลประชาชนตลอดพื้นที่เฝ้ารับเสด็จฯระยะทาง 7,150 เมตร คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมพิธีฯประมาณ 200,000 คน จึงมีพระบรมราชานุญาต ให้ใช้พื้นที่บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง รวมถึงพื้นที่ท้องสนามหลวงรองรับประชาชน ที่คาดว่าจะมากันจำนวนมาก เพื่อไม่ให้แออัดเกินไป โดยคำนวณจากพื้นที่หนึ่งตารางเมตรนั่งได้สองคน ทำให้นั่งสบายไม่แออัด นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร จะติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่ ถ่ายทอดสดให้ประชาชน ที่อยู่ไกลเห็นพระราชพิธีฯชัดเจนมากขึ้น

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกด้าน ถือเป็นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามฤกษ์ทุกอย่าง หลังจากนี้ เป็นการซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครวันที่ 28 เมษายน และช่วงเดือนพฤษภาคมจะเข้าเวลาพระราชพิธี โดยวันที่ 2 พฤษภาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯไปทรงสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราช รัชกาลที่ 1และรัชกาลที่ 5 รวมถึงเจดียสถานสิ่งศักดิ์ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนช่วงเย็นวันที่ 3 พฤษภาคม จะมีพระราชพิธีการประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเชิญชวนประชาชน สวดมนต์ 5 ศาสนาวันที่ 24 เมษายน ซึ่งเคยมีการสวดมนต์ประจำแต่ละเดือน แต่ทุกครั้งที่ผ่านมาเป็นการสวดมนต์ทางพระพุทธศาสนา แต่ครั้งนี้เป็นการสวดมนต์ 5ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ พราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ เพื่ออุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ สวดถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต วันพุธที่ 24 เมษายน .2562 เวลา17.00 น.