"กฤษฎา"เร่งเกณฑ์ใหม่"นมโรงเรียน"ทันเปิดเทอมวันแรก จัดโควตาสิทธิจำหน่ายกระจาย5ภูมิภาค กำหนดวันที่ 6-16พ.ค.ผู้ประกอบการทำสัญญาซื้อขายกับอปท.ส่งโรงเรียนทั่วประเทศ ด้านผู้ประกอบการนม ยกเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลนี้ ชี้ถึงจุดจบนิยายน้ำเน่าเกิดซ้ำซากทุกเทอมตบตีแย่งชิงโควตานม
26 เม.ย.62 นายสัตวแพทย์ณรงค์ เลี้ยงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ และเลขานุการคณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน เปิดเผยว่า ได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการจำหน่ายนมโรงเรียนเสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร แล้วจะเร่งคณะอนุกรรมการกลุ่มพื้นที่ 5 กลุ่มภูมิภาค จัดประชุมพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการและจัดสรรสิทธิ (โควตา) การจำหน่าย คาดว่าวันที่ 30 เม.ย.จะได้ผลการคัดเลือก รวมทั้งผลการพิจารณาจัดสรรพื้นที่จำหน่าย ในวันที่ 1 พ.ค.ตามข้อสั่งการของ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำว่าเปิดเทอมวันแรกเด็กนักเรียนทุกคนต้องได้ดื่มนมที่ดีมีคุณภาพ มีการควบคุมตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนไม่เกิดปัญหาเหมือนในอดีต
สำหรับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ซึ่งทำหน้าที่เป็นคู่สัญญาระหว่างผู้ประกอบกับหน่วยงานที่จัดซื้อจัดจ้างนมโรงเรียนซึ่งจะประกาศผลบนเว็บไซต์ทั้งหมด โดยผู้ประกอบการสามารถทำสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบการจัดซื้อนมโรงเรียนของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ดูแลการจัดซื้อในส่วนโรงเรียนเอกชนตั้งแต่วันที่ 6 - 16 พ.ค.นี้
ด้าน นายสุรชาติ คหินทพงษ์ ประธานกลุ่มความร่วมมือภาคสหกรณ์ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา (ACPU) ซึ่งสมัครเข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนประจำปีการศึกษา 2562 รวม 19 ราย กล่าวว่า มั่นใจในแนวทางที่นายกฤษฎา เข้ามาเซ็ตซีโร่ทั้งระบบโดยปฏิรูปการบริหารจัดการนมโรงเรียนใหม่ และได้แต่งตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ขึ้นมารับผิดชอบ โดยแยกออกจากคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (Milk Board) ทำให้คณะกรรมการอาหารนมฯ รวมทั้งคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 4 ชุด ไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการ มานั่งอยู่ในคณะกรรมการ เนื่องจากที่ผ่านมาตัวแทนแต่ละกลุ่มพยายามกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เอื้อต่อกลุ่มของตนเอง ทำให้เกิดความขัดแย้งและไม่ได้รับการแก้ไขต่างฟ้องร้องระหว่างกัน ทั้งเรื่องการจัดโควตาจำหน่ายไม่โปร่งใส ร้องเรียนเรื่องมีการหักหัวคิว นำโควตานมไปขายต่อ
สำหรับแนวทางปฎิรูปโครงการนมโรงเรียนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแล้วกำหนดให้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนระดับกลุ่มพื้นที่ 5 กลุ่ม ที่เป็นพื้นที่เลี้ยงโคนมจำนวนมาก ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สามารถควบคุมคุณภาพนมโรงเรียนได้อย่างใกล้ชิดมีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ว่าเป็นน้ำนมดิบจากโคนม เพราะมาจากโซนที่เลี้ยงโคนมที่กำหนดไว้ชัดเจน พิสูจน์คุณภาพได้ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงงาน รวมทั้งเมื่อเข้าโรงงานแปรรูปเป็นนมพาสเจอร์ไรส์และนมยูเอชทีแล้ว สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน อีกทั้งการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายยังพิจารณาในกลุ่มพื้นที่ก่อนเพื่อให้กระบวนการขนส่งใช้เวลาน้อยที่สุดไปถึงมือเด็กนักเรียน ลดความเสียหายจากขนส่งได้มาก
"นมที่ใหม่สดถึงมือนักเรียนอย่างรวดเร็วทุกวัน และพร้อมปฏิบัติตามระบบใหม่มีบิ๊กดาต้า จะรวบรวมฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้แก้ปัญหาที่ผ่านมาได้ที่มีการแจ้งปริมาณรับซื้อน้ำนมดิบเป็นเท็จ จนสูงกว่าปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตได้ในแต่ละวัน เพื่อให้ได้โควตานมมากขึ้นจะหมดไป เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลนี้ และรมว.เกษตรฯ ที่ผ่านมาโครงการนมโรงเรียนถูกมองว่ามีการแย่งชิงผลประโยชน์จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เป็นกรรมการและอนุกรรมการฯ ร้องเรียนกันว่า ปริมาณน้ำนมดิบที่แจ้งมากกว่าผลิตได้จริง เนื่องจากแย่งโควตาจำหน่ายกัน เป็นเหมือนละครน้ำเน่าที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกภาคเรียน แต่ระบบใหม่นี้โปร่งใสและตรวจสอบได้เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ได้ดื่มนมคุณภาพดี ทันทีในวันเปิดภาคเรียน 16 พ.ค.นี้" นายสุรชาติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี