การเดินทางไปตากอากาศริมชายทะเล หาสูดอากาศบริสุทธิ์ในปัจจุบันทุกคนมักจะนึกถึงชายทะเลฝั่งอันดามัน เพราะตั้งแต่มีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดที่ชายฝั่งทะเล ก็ส่งผลให้ทัศนียภาพของชายฝั่งบิดเบือนไป จากที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปพักตากอากาศ สูดอากาศบริสุทธิ์ กับต้องพบเจอกับควันพิษ มลพิษทางอากาศ ขยะมูลฝอยเกลื่อนชายหาด แถมบางที่ยังมีคราบน้ำมัน จนทำให้นักท่องเที่ยวหนีไปเที่ยวทะเลฝั่งอันดามันกันซะส่วนใหญ่ แต่ใครว่าทะเลฝั่งอ่าวไทยจะมีแต่ขยะ และคราบน้ำมันเพียงอย่างเดียว คงต้องยกเว้นที่นี่ไว้สักที่แล้วแหละ เพราะหาดทรายขาวๆ น้ำทะเลใสๆ ยังคงมีให้เห็นอยู่ที่นี่ “เกาะสีชัง”

สีชัง เป็นเกาะขนาดใหญ่และเป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และมีสภาพแวดล้อมที่น่าท่องเที่ยวให้บรรยากาศแบบท้องถิ่น จุดเด่นของเกาะสีชังยังคงความมีเสน่ห์ในเรื่องการดำรงชีวิตของชาวประมงให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส บวกกับบรรยากาศที่อันเงียบสงบ หลับตาฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง

เกาะสีชังเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน มีธรรมชาติความงดงามแตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยว อื่นๆ มีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม เกาะสีชังเป็นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แต่ดั้งเดิม เพราะเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ซึ่งมีหลักฐานปรากฏจากพระนามาภิไธยหลายแห่ง และ รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นสถานที่ประทับในฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า พระจุฑาธุชราชฐาน ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติบนเกาะสีชังแห่งนี้

ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้น การเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็บที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ ที่นักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ เป็นยานพาหนะพานักท่องเที่ยงไปยังจุดต่างๆ บนเกาะสีชังโดยไกด์มืออาชีพอย่างชาวบ้านบนเกาะที่มาขับนำเที่ยวนั่นเอง

จุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชังที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือการไปไหว้สักการบูชาศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ต่อด้วยสถานที่ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย จากบริเวณศาลมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน มณฑปรอยพระพุทธบาท อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาเป็นจุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 พระจุฑาธุชราชฐาน ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ได้แก่ สระน้ำ บ่อน้ำ สะพานท่าเทียบเรือ และประภาคาร สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดกับเกาะสีชัง เรียกได้ว่าจะมาไม่ถึงหากพลาดที่สุดท้ายนี้ ทะเลใสสะอาดหาดถ้ำเขาพัง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดที่กว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียดสีขาว น้ำทะเลที่ใสปราศจากขยะลอย ซึ่งหาได้ยากเมื่อเทียบกับหาดฝั่งทะเลอ่าวไทย ขึ้นชื่อว่าหาดที่นี่ใสสะอาดที่สุดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำเป็นอย่างมาก

นางสาวภาวิณี มูลประหัส ชาวบ้านบนเกาะสีชังกล่าวกับเราว่า ที่นี่ยังคงเป็นเกาะที่คงความเป็นธรรมชาติอยู่ พวกเราที่อาศัยอยู่ที่นี่ช่วยกันรักษา และอนุรักษ์ความสวยงามไว้ เพราะนอกจากความสวยงามของทะเลที่ธรรมชาติสร้างขึ้นแล้ว บนเกาะแห่งนี้ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถ้าพวกเราทุกคนช่วยกันดูแล ก็จะยังคงความสวยงามเอาไว้ให้ลูกหลาน สุดท้ายก็อยากจะฝากนักท่องเที่ยวทุกท่านที่เข้ามาเที่ยวที่นี่ อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงทะเล เพื่อคงความสวยงามที่เกาะสีชังมีอยู่ไว้นานๆ

และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่คงความเป็นธรรมชาติเอาไว้อย่างเต็มรูปแบบ เพราะที่นี่มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีน้ำทะเลที่ใสสะอาดหาดทรายสีขาว ซึ่งหาดูได้ยากสำหรับเกาะทะเลฝั่งอ่าวไทย เกาะสีชังแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์ที่เราอยากแนะนำ เพราะนอกจากจะใกล้กรุงเทพฯ เดินทางง่ายแล้ว ยังทำให้ผู้ที่มาเยือนได้สัมผัสถึงคำว่าธรรมชาติที่แท้จริงอีกด้วย หากใครที่กำลังหาที่พักตากอากาศที่สัมผัสกับธรรมชาติ วิถีชาวเล และยังแถมด้วยการชมสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าอย่างที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ ก็ห้ามพลาดเกาะทะเลอ่าวไทย เกาะสีชัง ชลบุรี