เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2 พ.ค. 62 พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) และ พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ระดมกำลังร่วมกันปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมและการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บริเวณตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ ฯและ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในห้วงงานพระราชพิธี ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ตม.ประจำจุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่าพบหนุ่มชาวเวียดนาม ต้องสงสัยนำหนังสือเดินทางมายื่นแสดงจะเดินทางออกไปกัมพูชา เมื่อตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศน์ สตม.ไม่พบประวัติการเดินทางเข้าประเทศไทย พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบนายทราน มิน ฮวง อายุ 29 ปี ถือพาสปอร์ตสัญชาติเวียดนาม ตรวจสอบพาสปอร์ตไม่พบตราประทับอนุญาตเข้าประเทศไทย จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ ห้องสอบสวน ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ผ่านล่ามภาษาเวียดนาม นายทราน มิน ฮวง รับสารภาพว่าได้เดินทางมาจากประเทศเวียดนาม ผ่านประเทศกัมพูชา แล้วลักลอบเดินเท้าตามป่าละเมาะตะเข็บชายแดนตามช่องทางธรรมชาติจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยเสียเงินค่านายหน้าชาวเขมรนำพาเข้าไทยไปเป็นเงิน 1,000 บาทเพื่อต้องการเข้ามาหางานทำในประเทศไทย แต่ช่วงนี้ทางการทำเข้มงวดและมีด่านตรวจจำนวนมากจึงกลัวถูกจับจึงเดินทางมาที่ ด่าน ตม.อรัญประเทศฯเพื่อจะเดินทางออกไปกัมพูชา และมาถูกเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว ตรวจสอบและจับกุมในที่สุด
ซึ่งคำให้การของนายทราน มิน ฮวง ชาวเวียดนาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคาดว่านายทราน มิน ฮวง น่าจะร่วมแก๊งกรีดกระเป๋าและล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว ใน กทม.แต่ถูกทางการไทยระดมกวาดล้างอย่างหนักในห้วงงานราชพิธีจึงหลบหนีจะออกไปกัมพูชาเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายทราน มิน ฮวง ส่ง สว.สอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี ข้อหา "เป็นคนต่างด้าว (เวียดนาม) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" ทันที
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้เข้าจับกุมนายเนือม เฮือน อายุ 34 ปี และ นางคอน นัท อายุ 34 ปี 2สามีภรรยาชาวกัมพูชา ขณะนั่งรถยนต์โดยสารสาธารณะ มุ่งหน้าจะเข้าตลาดโรงเกลือ บริเวณจุดตรวจบนถนนสุวรรณศร ข้าง สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรวจสอบพาสปอร์ตสัญชาติกัมพูชา พบว่าอยู่เกินอนุญาตคนละ 39 วัน จึงควบคุมตัวส่ง สว.สอบสวน.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีข้อหา" "เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด" ต่อไป
20 กันยายน 2562 เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรัสย์ ขนิษฐวงษ์สกุล รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลังเข้
16 กันยายน 2562 เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จิรัสย์ ขนิษฐวงษ์สกุล รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมื
19 สิงหาคม 2562 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการแจ้งประสานจาก นายเกียรติ ฮอร์ ผู้ว่าราชการกรุงปอยเปต และ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2 พ.ค. 62 พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหาร
28 เม.ย.62 เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรัสย์ ขนิษฐวงศ์สกุล รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ต.อภิชาติ&nb
2 เม.ย.62 พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระ
6 มี.ค.62 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่าได้รับความเดือกร้อนรำคาญจากกลุ่มชาวเข
28 ก.พ.62 เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จ.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ต.จิรเดช พุฒินาทพัฒน์ สว.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.เตชทัต เฉ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี