ก.ต.ตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงคลิปอธิบดีศาลอาญาทุจริตฯภาค 8 ประเด็น “ผมเพื่อนโชค” ส่วนปมทนายใหญ่ ไม่ยอมให้เป่าวัดแอลกอฮอล์ ทั้งโวยวายกระหึ่มโซเชียลมีเดีย เจอข้อหาเมาแล้วขับ ขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม ศาลฎีกา สนามหลวงนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) ครั้งที่ 6/2562 โดยที่ประชุมได้พิจารณาวาระการประชุมหลายเรื่องและมีมติในเรื่องต่างๆ ทั้งเห็นชอบการโยกย้ายข้าราชการตุลาการ สับเปลี่ยนตำแหน่งชั้น 3 และชั้น 4 เห็นชอบการแต่งตั้งบัญชีผู้พิพากษาอาวุโส วาระพิเศษ 1 สิงหาคม 2562 และวาระที่ ก.ต.รับทราบ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ซึ่งรับเลือกเป็น ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิ สัดส่วนบุคคลภายนอก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งได้รับเลือกจากผู้พิพากษาตามกฎหมายใหม่ มาตรา 36 (3) พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 ได้ขอลาออกจากการเป็นก.ต. ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2562
นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต. เห็นชอบโยกย้ายตั้งสับเปลี่ยนตำแหน่งผู้พิพากษาที่น่าสนใจ ได้แก่ การแต่งตั้งผู้พิพากษาระดับชั้นศาลอุทธรณ์ขึ้นไปมาดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและศาลแพ่ง มีนบุรี,ตลิ่งชัน,และพระโขนง เป็นชุดแรกภายหลังจากที่ได้มีการประกาศยกฐานะของศาลจังหวัดมีนบุรี,ศาลจังหวัดตลิ่งชัน และศาลจังหวัดพระโขนง มาเป็นศาลอาญาและศาลแพ่ง ในพื้นที่เขตอำนาจศาลทั้ง 3 แห่งดังกล่าว ซึ่งมีการประกาศเป็นกฎหมายลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา
โดยในส่วนของผู้บริหารศาลอาญามีนบุรีประกอบด้วย นายภิญโญ แสงภู่ รอง ประธานอุทธรณ์ภาค 1 เป็น อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีนบุรี , นายนพรัตน์ อักษร ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีนบุรี, นางสุภาวิทยาอารีย์กุล ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำกอง ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์ เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีนบุรี ผู้บริหารในศาลอาญาตลิ่งชันประกอบด้วยนายสนิท ตระกูลพรายงาม รอง ประธานอุทธรณ์ภาค 1 เป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน, นางอัจฉรา สุระคำแหง ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน,นางจรีรัตน์ ตันติเวชกุล รองเลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชันผู้บริหารในศาลอาญาพระโขนง ประกอบด้วยนายเชวง ชูศิริ เลขาธิการประธานศาลฎีกา เป็น อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาพระโขนง และรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลพระโขนงอีก 2คนคือนายจรูญ นาคเสน จากผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา และนายดิลก เสริมวิริยะกุล จากผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา
ผู้บริหารในศาลแพ่งตลิ่งชัน ประกอบด้วย นายประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็น อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งตลิ่งชัน, นายโตมร สิริวัฒน์ภากร ผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์ประจำกอง ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ(ภาษี) เป็นรองอธิบดีฯศาลแพ่งตลิ่งชัน
ผู้บริหารในศาลแพ่งพระโขนง ประกอบด้วย นายอดุลย์ ขันทอง ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นอธิบดีฯศาลแพ่งพระโขนง, นายสุรพล นิตินัยวินิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแรงงานภาค 2 เป็น รองอธิบดีฯศาลแพ่งพระโขนง และผู้บริหารในศาลแพ่งมีนบุรี ประกอบด้วย นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์คดีชำนาญพิเศษ(แรงงาน) เป็นอธิบดีฯศาลแพ่งมีนบุรี,นายภมร สัตตภรณ์พิภพ ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นรองอธิบดีฯศาลแพ่งมีนบุรีโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ก.ต.ครั้งนี้ ยังได้หยิบยกเรื่องคลิปข่าวการขอตรวจใบอนุญาตขับขี่บุคคลซึ่งถูกอ้างชื่อว่าเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและปฤติมิชอบภาค 8 และในคลิปก็มีการกล่าวอ้างว่าเป็นเพื่อน ผกก. คนหนึ่งในพื้นที่ด้วย
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ที่ประชุม ก.ต. มีมติให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏคลิปภาพ นายไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 โดนเรียกตรวจใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ จนเกิดกระทบกระทั่งกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจในพื้นที่ สภ.อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทางศาลยุติธรรมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้รอบด้านเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
สำหรับการสอบข้อเท็จจริงนั้นคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นจะมีการสอบว่าพฤติการณ์หรือข้อมูลที่ปรากฏดังกล่าวรวมถึงคำชี้เเจงของนายไกรรัตน์เข้าข่ายมีมูลที่จะกระทำผิดวินัยหรือไม่ โดยไม่ว่าผลจะปรากฏอย่างไรก็ต้องจะส่งผลการสอบข้อเท็จจริงไปยังคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.)พิจารณากลั่นกรองทำความเห็นส่งก.ต.พิจารณาต่อไป
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ซึ่งได้รับแต่งตั้งจาก พล.ต.ต.ฐากูล เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คลิปฉาว “ผมเพื่อนโชค” เปิดเผย จะเริ่มสอบสวนในส่วนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องและปรากฏอยู่ในคลิปรวมถึงพยานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนอธิบดีฯ นั้น จะไม่มีการก้าวล่วงเพราะเป็นส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม
ทั้งนี้การสอบสวนของ ตร.จะมีการสอบ 3 ประเด็นคือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมีคลิป , การนำคลิปออกไปเผยแพร่ , และการโยกย้ายตำแหน่งผู้ปฎิบัติการ โดยดำเนินการสอบให้เสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งการสอบสวนนั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
อีกประเด็นหนึ่ง จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 2.56 นาที ขณะชายวัยกลางคน แต่งกายภูมิฐาน ขัดขืนไม่ยอมเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ โดยอ้างตัวเป็นทนาย ทั้งด่าทอเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ล่าสุด พ.ต.อ.สุวโรจน์ โชติกาญจนรัศมี ผกก.สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า จากการสอบถามข้อมูลพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะตำรวจจราจรกลางได้ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในพื้นที่ กระทั่งชุดปฏิบัติงานได้ควบคุมตัวชายอ้างตัวว่าเป็นทนายความ ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับและขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ซึ่งต่อมาหลังชายคนดังกล่าวได้รับการปล่อยตัว ได้แจ้งความดำเนินคดีกลับ กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ โดยขณะนี้ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำอีกครั้ง
ประเด็นดังกล่าว พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. กล่าวว่าขอฝากประชาชน ถ้าเจ้าหน้าที่ขอตรวจหรือให้เป่าแอลกอฮอล์ช่วยปฏิบัติตามด้วย คงไม่มีการกลั่นแกล้งในสมัยนี้ ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์เกิน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการที่ศาล ถ้าปริมาณไม่ถึงก็ไม่ดำเนินการอะไร ที่สำคัญสาเหตุที่ต้องตั้งด่านก็เพื่อความปลอดภัยของคนทั่วไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี