สทนช.ผนึกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกาะติดสถานการณ์แล้งมั่นใจผ่านพ้นไปได้ ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ปลายเดือนพ.ค.นี้ พร้อมวางแผนแก้ปัญหาระยะกลาง เดินหน้า 144 โครงการ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ตามมติ ครม.
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 5/2562 ครั้งล่าสุดได้ติดตามผลดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงเกิดภัยแล้งและแนวทางการให้ความช่วยเหลือที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยแล้ง 7 จังหวัดคือ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ นครราชสีมา มหาสารคาม ตราด และชลบุรี รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่มเติมอีก 12 จังหวัด คือ พิจิตร กำแพงเพชร ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อ่างทอง และเพชรบุรี ซึ่งในระยะสั้นได้จัดหาน้ำแจกจ่ายในพื้นที่ประสบภัย โดยรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำดื่ม จัดซื้อภาชนะบรรจุสำรองน้ำ ซ่อมแซมและขุดบ่อบาดาล ซ่อมแซมถังเก็บน้ำ ขุดลอกแหล่งน้ำ ก่อสร้างและซ่อมแซมระบบกระจายน้ำ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถผ่านพ้นฤดูแล้งปีนี้ไปได้
ส่วนการแก้ปัญหาระยะกลาง ครม.ได้อนุมัติงบกลางแล้วจำนวน 1,226 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความจุให้แหล่งน้ำธรรมชาติ อ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำอื่นๆ โดย สทนช.จะลงพื้นที่ทุกเดือน เพื่อติดตามผลดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำรวมทั้งสิ้น 144 โครงการ ซึ่งดำเนินการโดย 6 หน่วยงานได้แก่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปาส่วนภูมิภาค กองทัพบก ให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามเป้าหมาย
สำหรับสถานการณ์น้ำทั่วประเทศล่าสุด ก่อนกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนประมาณช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2562 นั้น ขณะนี้มีปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ 45,476 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 56 ของปริมาณน้ำที่เก็บกัก และศักยภาพน้ำบาดาล 1,228 ล้าน ลบ.ม. โดยมีอ่างเก็บน้ำเฝ้าระวังที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่า 30% แบ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 12 แห่ง เช่น อ่างเก็บน้ำกระเสียว มีปริมาณน้ำ 20% อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำ 24% อ่างเก็บน้ำทับเสลา มีปริมาณน้ำ 24% เป็นต้น และเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก จำนวน 149 แห่ง ซึ่งการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นไปตาม หรือใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ ยกเว้นในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ ตามแผนจัดสรรไว้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 30 เมษายน 2562 จำนวน 7,772 ล้าน ลบ.ม. แต่เมื่อถึงสิ้นเดือนเมษายน 2562 ปรากฏว่า จัดสรรน้ำไปถึง 9,300 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 120 ของแผน
ด้านกรมส่งเสริมการเกษตร ได้รายงานการปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาว่า การทำข้าวนาปรังในเขตชลประทานตามแผนกำหนดไว้ทั่วประเทศ 8.03 ล้านไร่ แต่มีการปลูกถึง 8.76 ล้านไร่ และมีการทำนาปรังรอบที่ 2 อีก 180,000 ไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ตามแผนกำหนดไว้ 5.30 ล้านไร่ แต่มีการปลูกถึง 5.86 ล้านไร่ และมีการทำนาปรังรอบที่ 2 อีก 120,000 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร และ ฉะเชิงเทรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี