มติไล่ออกผอ.
ปม‘ขนมจีนคลุกน้ำปลา’
เด็กอนุบาลกินมื้อกลางวัน
มติศึกษาธิการสุราษฎร์ธานี ไล่ออก“ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลา” ปมทุจริตอาหารกลางวันเด็กอนุบาล ผิดวินัยร้ายแรง 5 ข้อหา มีผลย้อนหลัง 18 มิถุนายน 2561 ชงเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการครูฯ ดำเนินการต่อ ทางตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองพอใจมติสอบแม้ใช้เวลาถึง 1 ปี
จากประเด็นร้อนที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโซเชียลอย่างมากเมื่อปี 2561 แชร์คลิปอาหารกลางวัน”ขนมจีนกับน้ำปลา”ของนักเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนบ้านท่าใหม่ หมู่17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนงบโครงการอาหารวันรวมทั้งโครงการอื่นๆของโรงเรียน ต่อมาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานีเขต 2(สพป.สฎ.เขต 2)ได้สั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ เข้ามาช่วยราชการ สพป.สฎ.เขต 2 จากนั้นได้มีคำสั่ง ให้ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2561นั้น
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีตผู้อำนวยการ(ผอ.)โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีกรณีปัญหาการจัดอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลด้วยการให้กินเส้นขนมจีนกับน้ำปลาว่า เมื่อวันที่ 3พฤษภาคม 2562 ที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี(คศจ.)ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ได้มีมติไล่ออกอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนรายนั้นแล้วตามความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ในความผิด 6 ข้อหา โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2561หรือนับแต่วันที่มีคำสั่งออกจากราชการก่อน
ขณะนี้ทางคศจ.อยู่ระหว่างส่งผลวินิจฉัยและมติการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)เรียบร้อยแล้วซึ่งอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ ภายใน30วันนับจากวันที่ได้รับคำสั่ง
ทั้งนี้ สำหรับมูลความผิดของอดีต ผอ.รโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ที่ถูกสอบสวนวินัย รวม 10 ประเด็น ซึ่งเป็นประเด็นวินัยร้ายแรง 5 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การทุจริตอาหารกลางวัน 2.การจัดซื้อจัดจ้างระบบไฟฟ้า 3.การขายผลผลิตปาล์มน้ำมันของโรงเรียน 4. อนุญาตให้ขายน้ำอัดลมในโรงเรียน และ5.โครงการจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในบริเวณโรงเรียน ส่วนประเด็นวินัยไม่ร้ายแรง 1 เรื่อง เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ดำเนินการเปลี่ยนวัสดุบางรายการ โดยไม่ชี้แจงข้อได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งผิดระเบียบการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนอีก 4 เรื่องเช่นการเลี้ยงปลาดุก,การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักครู และซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ไม่เข้าข่ายความผิดวินัย
ขณะที่ ทางตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนบ้านท่าใหม่รายหนึ่ง กล่าวว่าพอใจในมติของคณะกรรมการสอบสวนฯของ ศศจ.สุราษฎร์ธานี แม้จะต้องใช้เวลาเกือบ 1ปี ก็ตาม เพราะนั่นหมายถึงจะเป็นบรรทัดฐานในการทำงานของเจ้าหน้าที่รายอื่นๆต่อไป จากนี้ จะต้องรอดูผลการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดซึ่งทราบว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี