ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานโดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มของหน่วยงานฝ่ายปกครอง และกลุ่มหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางของโครงการบางระกำโมเดล มาต่อยอดขยายผลให้เกิด “โครงการบริหารจัดการน้ำทุ่งบางพลวง เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย” หรือ “บางพลวงโมเดล” เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างเกษตรกรในทุ่งบางพลวงกับประชาชนในชุมชนต่างๆ ที่อยู่นอกคันกันน้ำ โดยเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนฤดูน้ำหลาก อีกทั้ง ยังบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมต่อชุมชนริมแม่น้ำในหลายพื้นที่ รวมทั้งพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในเขตอำเภอเมืองปราจีนบุรี ด้วย
สำหรับ “ทุ่งบางพลวง” เป็นพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในเขตชลประทาน ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำปราจีนบุรี ต่อเนื่องถึงแม่น้ำบางปะกง เนื้อที่ประมาณ 499,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ของจ.ปราจีนบุรี ได้แก่ อ.เมือง อ.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมโหสถ และอ.บ้านสร้าง รวมถึง 3 อำเภอ ของจ.ฉะเชิงเทรา ได้แก่ อ.บางคล้า อ.ราชสาส์น และอ.พนมสารคาม ในอดีตพื้นที่ทุ่งบางพลวง จะประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำ ทำให้ผลผลิตการเกษตรเสียหาย กรมชลประทานได้ดำเนินการแก้ปัญหา
ด้วยการปรับปรุงพื้นที่โครงการ สร้างคันกั้นน้ำริมแม่น้ำปราจีนบุรีต่อเนื่องแม่น้ำบางปะกง และสร้างประตูระบายน้ำบริเวณคลองสายหลักที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำ เพื่อ
ช่วยเหลือเกษตรกรให้ทำกิจกรรมการเกษตรในทุ่งบางพลวงได้
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาดังกล่าวพบว่าช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ของทุกปี เป็นช่วงใกล้เก็บเกี่ยวข้าว เมื่อปิดประตูระบายน้ำ ปริมาณน้ำจะไม่สามารถไหลบ่าเข้าทุ่งได้ จึงไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรอื่นๆ รวมไปถึงชุมชนริมแม่น้ำในพื้นที่อ.ศรีมหาโพธิ อ.บ้านสร้าง และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในเขต อ.เมืองปราจีนบุรี ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นเป็นประจำเกือบทุกปี
ดังนั้น การแก้ปัญหาระยะยาว กรมชลประทาน จึงมีแนวคิดดำเนินโครงการบางพลวงโมเดล ลักษณะที่คล้ายกับโครงการบางระกำโมเดล เพื่อให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนฤดูน้ำหลาก หลังจากนั้นจะใช้เป็นทุ่งรับน้ำหลาก โดยปรับปฏิทินการเพาะปลูกพืชใหม่ จากเเดิมเกษตรกรจะเริ่มเตรียมแปลงเพาะปลูกประมาณกลางเดือนพฤษภาคม เนื่องจากต้องรอน้ำฝนและเก็บเกี่ยวกลางเดือนกันยายน ปรับเป็นเริ่มเตรียมแปลงภายในเดือนเมษายน และเก็บเกี่ยวให้เสร็จภายในกลางเดือนสิงหาคม ก่อนฤดูน้ำหลากจะมา
สำหรับแนวทางนี้ เป็นการแก้ปัญหาให้เกษตรกรและชุมชนไม่เกิดความเสียหายทั้งสองกลุ่ม ตลอดจนลดความขัดแย้ง ความเสียหายต่อผลผลิต รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาอุทกภัย จ.ปราจีนบุรี อีกด้วย ถ้าดำเนินโครงการในพื้นที่ดังกล่าวประสบผลสำเร็จ จะขยายผลไปดำเนินโครงการในพื้นที่อื่นของทุ่งบางพลวง ซึ่งพบว่ามีพื้นที่ที่มีศักยภาพดำเนินโครงการได้ประมาณ 200,000 ไร่ อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี