‘เครือข่ายหนุนบุหรี่ไฟฟ้า’ค้านกรมการค้าต่างประเทศตั้ง‘ศจย.’วิจัยข้อดี-เสียหวั่นไม่เป็นกลาง
19 พ.ค.62 นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” (ECST) กล่าวในงาน “ปอดใส ไร้ทาร์” ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มฯกว่า 40 คนเข้าร่วมงานเพื่อเรียกร้องให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมาย ว่า ธีมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลกในปีนี้คือ “ยาสูบและสุขภาพปอด” ทุกปีหน่วยงานสาธารณสุขก็จะออกมารณรงค์ให้ความรู้ด้วยเพื่อให้คนเกรงกลัวพิษภัยของบุหรี่และเลิกสูบบุหรี่ แต่จำนวนผู้สูบบุหรี่บ้านเรากลับไม่ได้ลดลงมากนัก ยังคงที่ประมาณ 19% ตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันคนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่า นิโคติน คือตัวการร้ายที่ทำให้เกิดโรคร้ายแรงจากการสูบบุหรี่เช่น มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง ทั้งที่จริงๆ แล้วควันบุหรี่ที่เกิดจากการเผาไหม้ของใบยาและกระดาษมวนบุหรี่ต่างหากที่มีสารเคมีมากกว่า 6,000 ชนิด และมีสารก่อมะเร็งในนี้กว่า 100 ชนิด ถ้าไม่มีการเผาไหม้ สารพิษที่ปล่อยออกมาก็ย่อมลดลง นี่เป็นข้อมูลจาก สธ. อังกฤษและองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่างกับข้อมูลของไทยอย่างมาก
“ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สหภาพยุโรป นิวซีแลนด์ บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการยอมรับให้เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมายและเป็นทางเลือกให้กับคนที่ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ ไม่ก่อให้เกิดควันมือสอง และสารพิษที่ปล่อยออกมาก็น้อยก็ควันบุหรี่ ทั้งๆ ที่หน่วยงานสาธารณสุขบ้านเราก็ออกมายอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ แต่กลับเลือกสวนทางประเทศที่พัฒนาแล้วโดยการแบนบุหรี่ไฟฟ้า เพราะอ้างว่าอาจมีสารโลหะหนัก แทนที่จะใช้วิธีควบคุมอย่างถูกกฎหมายจะได้ดูแลเรื่องมาตรฐานการผลิตได้ ผู้ใช้หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยต้องรับกรรม ถูกจับกุม มีโทษอาญา จำคุกเป็น 10 ปี กลายเป็นอาชญากร ขณะที่บุหรี่มวนที่เผาไหม้มีสารพิษที่ปล่อยออกมามากกว่า มีอันตรายมากมาย กลับสามารถขายได้อย่างถูกกฎหมาย ” นายอาสา กล่าว
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม “ปอดใส ไร้ทาร์” เป็นการจัดงานรวมตัวของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อรวบรวมรายชื่อแสดงจุดยืนคัดค้านศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ที่ได้รับมอบหมายให้ทำวิจัยบุหรี่ไฟฟ้า
ด้าน นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ฟ้า กล่าวว่า ศจย. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีจุดยืนในการต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้ามาตลอดได้รับมอบหมายจากกรมการค้าต่างประเทศให้ทำการวิจัยข้อดี-ข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งพวกเราไม่อาจยอมรับผลการศึกษาจากหน่วยงานที่ไม่เป็นกลางได้ เราจะไม่ยอมฝากชีวิตไว้กับกฎหมายที่ล้าหลัง เราจำเป็นต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ ซึ่งห็นว่าชีวิตของเราและคนรอบข้างสำคัญกว่ากฎหมายห่วยๆ แบบนี้ คนไทยต้องตายจากควันบุหรี่ถึงปีละ 50,000 คน อีก 17 ล้านคนต้องทนรับควันบุหรี่มือสอง ถ้าเราแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปเท่ากับเราปล่อยให้คนไทยต้องตายหรือเจ็บป่วยทุกข์ทรมานเพราะควันบุหรี่ไปเรื่อยๆ ทุกปี แล้วใครจะรับผิดชอบกับความสูญเสียเหล่านี้ หากรัฐบาลต้องการปกป้องปอดของคนไทยให้ได้รับอันตรายจากการสูบบุหรี่และได้รับควันบุหรี่มือสองให้น้อยลง ก็น่าจะเปิดใจกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนในหลายๆ ประเทศ
“เราจึงขอเรียกร้องให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกคนลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองและครอบครัวเพื่อจะได้เข้าถึงทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนได้ เราจึงต้องหาทางช่วยคนเหล่านี้ให้ได้รับอันตรายจากควันบุหรี่น้อยลง รวมถึงควันบุหรี่มือสองที่ไปทำร้ายคนรอบข้างด้วย เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะนำรายชื่อ ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และจดหมายจากตัวแทนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทั่วเอเชียที่เห็นด้วยกับเรา ไปยื่นให้กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยชีวิตคนไทยกว่า 10 ล้านคนให้เร็วที่สุด” นายมาริษ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี