พบใช้ถล่มกรุงปี’53-57
อาก้า-เอม79
ตรวจยึดได้ที่ศรีสะเกษ
‘ศรีวราห์’รุดตรวจถึงที่
‘บิ๊กป้อม’สั่งเร่งขยายผล
“ศรีวราห์”นำคณะลงพื้นที่ศรีสะเกษ ตรวจของกลางอาวุธสงครามซุกซ่อน ระบุโยงเหตุการณ์การเมืองปี’53-57 ด้าน รอง ผบช.สพฐ.ยัน ปืนอาก้า-เอ็ม 79 เคยใช้ถล่มกรุง รวมทั้งยิงใส่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงปี’53 และ ’57ไม่ต่ำกว่า 50ครั้ง ขณะที่“บิ๊กป้อม”สั่งเร่งขยายผล ไม่ฟันธงใครเอี่ยม
ความคืบหน้ากรณีพบอาวุธสงครามจำนวนมากทั้งกระสุนปืนPG2ใช้กับเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี จำนวน21นัด กระสุน รย. 40มม.ใช้กับเครื่องยิง M 79จำนวน70นัด, แท่งดินขับส่งPG2 จำนวน1กล่อง ซุกซ่อนในคลองส่งน้ำ บ้านขนุนเหนือ ต.สโน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษนและยังตรวจพบเพิ่มอีกในลำห้วยเหนือขึ้นไปหลังสูบน้ำออก ทั้งกระสุนปืน PG 2 เพิ่มอีก 3กระสอบๆละจำนวน 41ลูก,กระสุนปืนขนาด 7.62มม.ใช้กับปืนอาร์ก้า อีก 3 กล่อง บรรจุกล่องละ 700 นัด รวม 2,100 นัดเมื่อวันที่ 5และ6 มิถุนายนนั้น
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองผบช.สพฐ.ตร.) พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้าหลังพบอาวุธระเบิดอาร์พีจี อาวุธปืนสงคราม M79 ลูกกระสุนปืนอาก้า และเชื้อปะทุ จำนวนมากในถุงกระสอบห่ออย่างดีซุกซ่อนไว้ในคลองส่งน้ำ บ้านขนุนเหนือ ต.สโน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ สภ.ขุขันธ์
โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมด พบว่า อาวุธส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตในประเทศไทย แต่เชื่อว่ามีที่มาจากประเทศรัฐเซีย และกลุ่มสหภาพโซเวียต อาวุธสงครามเหล่านี้เป็นอาวุธเก่าแต่อยู่ในสภาพที่ใหม่พร้อมใช้งาน บางชนิดเคยมีใช้ในประเทศไทยแต่ปัจจุบันไม่มีการนำอาวุธสงครามมาใช้ในประเทศไทย
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าอาวุธปืนอาก้าและอาร์พีจี เคยถูกใช้ก่อเหตุในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อประมาณปี 2553และปี 2557ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น บริเวณถนนอู่ทอง ทำเนียบรัฐบาล และโรงแรมดุสิตธานีเป็นต้นรวมทั้งสิ้นกว่า 50 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบถุงปุ๋ย ที่บรรจุอาวุธสงครามล็อตนี้ เพราะพบว่ามีบางถุงมีอักษรและสัญลักษณ์ที่ไม่ใช่ของประเทศไทย โดยให้ตรวจสอบกับกรมศุลกากรและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ โดยบ่อน้ำที่พบอาวุธสงครามอยู่ห่างจากเขตรอยต่อชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร
ประเด็ดดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม เผยว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางของอาวุธว่ามีความเป็นมาอย่างไร
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่าอาจจะเชื่อมโยงกับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ นักเคลื่อนไหวเสื้อแดงกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ ตนไม่รู้ ส่วนจะต้องมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเรื่องอาวุธสงครามในช่วงนี้เป็นพิเศษหรือไม่นั้น คงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี