12 มิ.ย.62 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าอาชีพเกษตกรยังถูกปล่อยให้ทำเกษตรตามยถากรรม อยู่กับความโชคร้าย มากกว่าโชคดี บางปีเจอทั้งน้ำท่วมภัยแล้ง ซึ่งรัฐบาลนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นปฏิรูปภาคเกษตรเกิดความเข้มแข็ง ปรับโครงสร้างลงฐานรากที่ยังอ่อนแอมาก โดยไม่แก้เฉพาะหน้าปัญหาเรื่องราคาที่เป็นปลายทาง เพราะความเสี่ยงทำเกษตรมีตลอดเวลา ต้นทุนการผลิตสูง สินค้าล้นตลาด หาที่ขายไม่ได้ ตนได้นำแนวคิดปฏิรูปภาคเกษตร การตลาดนำการผลิต กระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่จูงใจชาวนางดทำนาปรังรอบสอง เข้าโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ในพื้นที่ 33 จังหวัด พื้นที่ 2.8 ล้านไร่ มี 5 ทหารเสือ
เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อสนับสนุนและเป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกร ทำผลผลิตเกษตรที่มีคุณภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกข้าวและปรับสมดุลการปลูกพืชให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆในช่วงฤดูแล้งที่ยังประหยัดใช้น้ำลงได้
ดึงเอกชนเข้ารับซื้อทุกพื้นที่ ซึ่งขณะนี้เกษตรกรปลูกข้าวโพด เห็นผลสำเร็จมีกำไรไร่ละ 3 พันบาท สูงสุดในการทำพืชไร่ จึงเรียกว่า “กฤษฏาโมเดล” ได้สั่งให้นำโมเดลปลูกข้าวโพดหลังนา เร่งดำเนินการพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น ในช่วง 1 ปี 6 เดือน นี้เห็นผลสำเร็จหลายชนิดได้ราคาที่มีเสถียรภาพ และนำยางพาราทำถนนทุกชุมชนกว่า 3 แสนกม. ปฏิรูประบบบริหารนมโรงเรียน เกลี่ยโควตา 5 ภูมิภาค เพื่อให้ได้น้ำนมโคที่มีคุณภาพดี ส่งครบถึงมือเด็กนักเรียนทุกวัน แก้ปัญหาโควตาลม นมบูดเสีย นมตกเกรด แก้หนี้สินเกษตรกรกองทุนฟื้นฟู(กฟก.) กว่า 4.5 แสนราย ไม่เป็นภาระรัฐบาลหน้า โดยไม่ใช้งบมากกระทบการเงินการคลังของประเทศเหมือนอดีต
นายกฤษฏา กล่าวว่า มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่อย่างยั่งยืน ไม่ต้องใช้เงินรัฐโดยราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม ปรับขึ้นมา 3 บาทต่อฟอง ทั้งนี้จากเมื่อปลายปีที่แล้ว สมาคมฯและเครือข่ายผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยเข้าร้องเรียนเร่งแก้ไข่ไก่ราคาตกต่ำ เพราะผลผลิตไข่ล้นตลาด ราคาฟองละ 1.80 – 1.90 บาท โดยได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรายใหญ่ 16 บริษัทที่นำเข้าพ่อแม่พันธุ์(PS) และปู่ย่าพันธุ์ (GP) ปรับลดแม่ไก่ยืนกรงและรวบรวมไข่ส่งออก อาทิ ปรับลดปริมาณไก่ไข่ยืนกรง
รอบ1 ช่วงม.ค. – มิ.ย. 61ปลดไก่ยืนกรง 8 แสนตัว
รอบ2 ช่วงพ.ย. – ธ.ค. 61 ปลดไก่ยืนกรง 1 ล้านตัว
รอบ3 ช่วงมี.ค. 62 ปลดไก่ยืนกรง 3 ล้านตัวเพิ่มปริมาณการส่งออกไข่ไก่
รอบ1 ช่วงเม.ย. – มิ.ย. 61รวม 46 ล้านฟอง
รอบ2 ช่วงก.ค. – ต.ค. 61รวม 52 ล้านฟอง
รอบ3 ช่วงมี.ค. – พ.ค. 62 รวม 130 ล้านฟอง
สำหรับมาตราการเพื่อแก้ปัญหาไข่ล้นตลาดที่ยั่งยืน ปรับแผนการนำเข้าเลี้ยง GP และ PS ซึ่งเป็นต้นทางผลิตแม่ไก่ยืนกรงให้ลดลง เพื่อให้เหมาะสมกับผลผลิตไข่ที่ต้องการในท้องตลาด โดยปี 2562 มีเป้าหมายควบคุมให้เลี้ยง GP 3,800 ตัว PS 460,000 ตัว แม่ไก่ไข่ยืนกรง 50 ล้านตัว ได้ผลผลิตไข่ประมาณ 40 ล้านฟองต่อวัน 2.ปรับลดปริมาณ PS รอบ1 ช่วงมิย.61 ปลด PS 95,173 ตัว รอบ2 ช่วงพย.62 ปลด PS 100,000 ตัว สถานการณ์ปัจจุบันมีปริมาณแม่ไก่ไข่ยืนกรง 48 ล้านตัว ผลผลิตไข่ 38-39 ล้านฟองต่อวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี