กรมส่งเสริมการเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในโครงการบูรณาการข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านการเกษตร สร้างมิติใหม่ภาคเกษตร ติดตั้งสถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติ 102 แห่ง ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ รวมถึง ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ทั่วประเทศ วางเป้าใช้ประโยชน์ที่ดินด้านเกษตร ผ่านสถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติ โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ และลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการเกษตรก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการเกษตรกรรมของประเทศ
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบูรณาการข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านเกษตร (สถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติ) กับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยการส่งมอบสถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติ จำนวน 102 สถานี ให้กับกรมส่งเสริมการเกษตรในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือด้านการวิจัย พัฒนางานด้านวิชาการบูรณาการความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ในการจัดหาและสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้ในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งข้อมูลที่ได้จากสถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเกษตรของประเทศ ได้แก่ ด้านการใช้ประโยชน์สำหรับตัดสินวางแผนการผลิตสินค้าเกษตรด้านการปลูกพืช การดูแลรักษา เช่น การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช เป็นต้น ให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยนำมาวางแผนนโยบาย Thailand 4.0 และด้านเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสนับสนุนในกระบวนการผลิตมุ่งเน้นการปรับรูปแบบการเกษตรในปัจจุบันไปสู่เกษตร 4.0 ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเกษตรที่ยั่งยืนต่อประเทศและเกษตรกรต่อไป
ปัจจุบันสถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติ 102 สถานี ได้ติดตั้งอยู่ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ รวมถึง ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นที่วัดสภาพบรรยากาศ เพื่อเก็บข้อมูลการพยากรณ์อากาศ เช่น อุณหภูมิความชื้น ความเร็วลม ความเข้มแสง ทิศทางลม และปริมาณน้ำฝน โดยข้อมูลจะแสดงผลแบบ real-time
โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้ดำเนินการติดตั้งสถานีวัดสภาพอากาศอัตโนมัติและนำข้อมูลที่ได้มาเก็บเป็นฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและนำไปใช้ประโยชน์ได้
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร จะให้ความสำคัญเรื่องของการให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ได้รู้จักในการวิเคราะห์และใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร โดยคาดว่าในอนาคตข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ในการพยากรณ์การเกษตร ซึ่งเกษตรกรในบ้านเรา 149 ล้านไร่ ที่เป็นพื้นที่การเกษตร แต่ยังมีอีกกว่า 100 ล้านไร่ ที่ยังอยู่ในพื้นที่อาศัยน้ำฝน การพยากรณ์ที่แม่นยำ จึงจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเกษตรกรในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เนื่องจาก ปกติ ศพก.เป็นจุดวิชาการในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่จะส่งผ่านหรือกระจายข้อมูลให้แก่พี่น้องเกษตรกรในชุมชนได้
“ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ต้องใช้ข้อมูลเพื่อเป็นฐานในการวิเคราะห์ ความสำคัญต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภาคการเกษตรจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์ที่ดินด้านการเกษตร โดยการเก็บสถิติของข้อมูลที่มีผลแบบ real-time ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจวางแผนการผลิตสินค้าเกษตรให้เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่และสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ยังนำไปสู่การทำการเกษตรแบบแม่นยำ เพื่อสอดคล้องกับแนวการผลิตที่จะเกิดขึ้นและเพื่อลดความเสียหายในการเพาะปลูกจากปัจจัยสภาพภูมิอากาศได้” นายสำราญ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี