ฮีโร่คืนถ้ำหลวง! คนเรือนหมื่นร่วมปั่น-วิ่งรำลึก 1 ปีช่วย‘13หมูป่า’
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า วันนี้(23 มิ.ย.62) เป็นวันครบรอบ 1 ปี จากการเกิดเหตุการณ์น้องๆ 13 เยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีประสบเหตุติดอยู่ในถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ทั้งนี้ ในวันนี้ พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “วิ่ง-ปั่น ครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ถ้ำหลวง รวมใจเป็นหนึ่งเดียว” และเปิดกิจกรรมการวิ่ง สำหรับกิจกรรมจัดขึ้นที่ลานหน้าถ้ำหลวง มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เข้าร่วมครบครัน เช่น พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยชีล กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ , พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 , นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.พะเยา อดีตผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการช่วยเหลือฯ , พ.ท.นายแพทย์ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ , นางวลีพร กุนัน ภรรยาของนาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ และมิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ ชาวต่างชาติที่มีบทบาทในการค้นหาในถ้ำหลวง เดินทางไปร่วมกิจกรรมวิ่งด้วย
ขณะที่นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เครือข่ายสุขภาพ อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฝ่ายปกครอง มณฑลทหารบกที่ 37 ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย หอการค้า จ.เชียงราย สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียน มา ประจำสาขา จ.เชียงราย ฯลฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปเดินทางไปร่วมกิจกรรมรำลึกนับ 10,000 คน
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีการแข่งขัน แต่จะมีถ้วยรางวัลประเภทรางวัลต่างๆ ให้ผู้เขาร่วมแทน เช่น ทีมที่สมัครและมาร่วมกันในงานจำนวนมากที่สุด ทีมหรือผู้ที่เดินทางมาไกลที่สุด ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากที่สุด ฯลฯ และทุกคนจะได้รับเหรียญที่ระลึกออกแบบโดยอาจารย์ทรงเดช ทองทิพย์ จากสมาคมขัวศิลปะ ทำให้มีผู้ที่แต่งกายด้วยชุดแปลกตาหรือเดินทางมาจากที่ไกลๆ ไปร่วมงานกันอย่างคึกคัก
ก่อนเริ่มกิจกรรมทุกคนจะไปกราบไหว้เจ้าแม่นางนอนบริเวณหน้าถ้ำ และอนุสาวรีย์จ่าแซมที่ตั้งอยู่หน้าศาลาอนุสรณ์ สถานที่ที่ภายในบรรจุภาพวาดโดยศิลปินชาวเชียงรายลงทุนสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายด้วย
เวลาต่อมา พล.ท.ฉลองชัย ได้ทำการเปิดทำการวิ่งเพื่อสุขภาพมินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตร และวิ่งแบบฟันรันระยะทาง 6 กิโลเมตร โดยมีจุดเริ่มต้นบริเวณหน้าถ้ำหลวงและเลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางออกสู่ถนนพหลโยธินและวกกลับเข้าไปยังถ้ำหลวงผ่านเส้นทางขุนน้ำนางนอนหรือสระมรกต ซึ่งระยะทางทั้ง 2 เส้นทางมีจุดแยกบริเวณหมู่บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา เพื่อเพิ่มระยะทางให้กับการวิ่งระยะ 10 กิโลเมตรก่อนจะวกกลับมาใช้ถนนเส้นเดิมจากสระมรกตสู่ถ้ำหลวงต่อไปโดยในช่วงเปิดรับสมัครนั้นคาดการณ์กันว่าจะมีผู้ไปวิ่งรุ่นละประมาณ 1,500 คน แต่เมื่อถึงวันจริงพบว่ามีผู้สนใจไปร่วมวิ่งและไปดูกิจกรรมแต่ไม่วิ่งหรือวิ่งในระยะใกล้ปะปนอีกเป็นจำนวนมาก
จากนั้น นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นประธานในการปล่อยตัวนักปั่นจักรยานระยะทาง 54 กิโลเมตร และ 20 กิโลเมตรตามลำดับ โดยใช้เส้นทางปั่นออกจากถ้ำหลวงมุ่งหน้าขึ้นไปทางถนนพหลโยธินและขึ้นสู่ทิศเหนือไปยังหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ตรงสะพานมิตรภาพข้ามลำน้ำสายไทย-เมียน มา แห่งที่ 1 และวกกลับไปยังหมู่บ้านห้วยไคร้ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย และปั่นกลับย้อนกลับไปยังบ้านจ้อง-ขุนน้ำนองนอน และเข้าสู่ถ้ำหลวงตามลำดับ
ทั้งนี้เส้นทางผ่านของการออกกำลังกายดังกล่าวกำหนดให้ผ่านจุดประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญๆ ในปฏิบัติการช่วยเหลือ เช่น จุดสูบน้ำบริเวณปากถ้ำ หนองน้ำพุ แหล่งพักแรมของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครฝ่ายต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ วัดและชุมชนบ้านจ้องที่เป็นจุดพักแหล่งใหญ่ จุดจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อติดตามค้นหาและนำทีมหมูป่าทั้ง 15 คนส่งโรงพยาบาล สระน้ำมรกตภายในขุนน้ำนางนอน เป็นต้น
พล.ท.ฉลองชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงถึงความเสียสละและความสามัคคีของผู้คนอย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งนี้คือการสร้างความมั่นคงให้กับคนในชาติและเมื่อครบรอบ 1 ปีแล้วทุกคนได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้งหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ จึงเห็นว่าน่าจะมีกิจกรรมในลักษณะนี้เป็นประจำทุกปีโดยปี 2563 ก็น่าจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนเหตุการณ์เพิ่งผ่านพ้นไปเพียงวันเดียวและผู้คนที่เคยทำงานร่วมกันอย่างหนักตลอดระยะเวลา 18 วันของเหตุการณ์ได้กลับมาพบกัน โดยตลอดระยะเวลาดังกล่าวพบกับเหตุการณ์ต่างๆ โดยวันที่เลวร้ายที่สุดคือช่วงเวลา 5 วันที่เกิดเหตุการณ์น้ำในถ้ำมีปริมาณมากที่ไล่พวกเราที่กำลังตามหาเด็กๆ ไปถึงตรงสามแยกในถ้ำแล้วให้หนีกระเจิงออกมานอกถ้ำ ทำให้อุปกรณ์ภายในถูกน้ำท่วมหมดจึงต้องระดมกำลังและจัดหาอุปกรณ์ทั้งไฟฟ้า สายไฟ ท่อน้ำ ฯลฯ กันใหม่ และอีก 7 วันต่อมาสถานการณ์จึงดีขึ้นในที่สุด
“ผมจึงเห็นว่าควรจะจัดกิจกรรมรำลึกนี้เป็นประจำทุกปี เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แห่งความสามัคคีและเสียสละดังกล่าว รวมทั้งทำให้ทั่วโลกได้ทราบว่าถ้าคนไทยสามัคคีกันไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ เราก็สามารถผ่านพ้นไปได้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลกดังกล่าว” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี