ปส.คุม 2 ผัวเมียเครือข่ายยาเค“ปุ๊กกี้”ฝากขัง พร้อมค้านประกัน เหตุเป็นภัยสังคม โทษสูงกลัวหนี รอสอบพยานอีก 10 ปาก ไร้ญาติประกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 25 มิ.ย.62 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.เริงชัย คงสง รอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.4 บช.ปส. ควบคุมตัวนายกันต์ธร แก้วกระจ่าง หรือมิว อายุ 28 ปี ชาว กทม. และ น.ส.ธาริณี ขาวสะอาด หรือไหม อายุ 23 ปี ชาว จ.พังงา 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาที่ 1-2 เครือข่ายยาเสพติด น.ส.ปริศนา พรายแสง หรือ “ปุ๊กกี้” อดีตนักร้องชื่อดัง มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.-6 ก.ค.62 เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง , รอผลตรวจประวัติต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร , ผลตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของกลางจากบริษัทผู้ใช้บริการ และข้อมูลรายงานกระแสเงินในบัญชีธนาคารผู้ต้องหา
คำร้องระบุพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ร่วมกับเจ้าพนักงานสำนักงาน ป.ป.ส. จับกุม นายหง เจิ้ง อี้ (HUNG CHENG YI) อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางเป็นยาเค หรือเคตามีน น้ำหนักรวม 5.17 กก.ราคาประมาณ 5,170,000 บาท แล้วขยายผลจับกุมนายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี ชาว กทม. สามีของ “ปุ๊กกี้” และ น.ส.พริสซิลลา ปริศนา จิวเมลลี่ หรือ “ปุ๊กกี้” อายุ 40 ปี พร้อมยาของกลางหลายชนิด ที่บ้านพักใน ซ.รามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บก.ปส.4 บช.ปส. ดำเนินคดี
จากการขยายผลพบการสั่งซื้อขายยาเคกับนายกันต์ธร ผู้ต้องหาที่ 1 โดยถอนเงินสดให้ 1,350,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาที่ 1 ร่วมกับ น.ส.ธาริณี ผู้ต้องหาที่ 2 นำเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นหลายบัญชี เมื่อรับเงินแล้วผู้ต้องหาที่ 1 นำยาเคส่งมอบให้ น.ส.ปริศนา และนายชลวิทย์ ก่อนส่งให้นายหง ชาวไต้หวัน ที่นายโทนี่หรือหวัง ยุง ชิน (Yung Chin Wang) สั่งให้มารับ เพื่อส่งไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งนายโทนี่ได้หลบหนีออกจากประเทศไทย โดยหลังจากการจับกุมกลุ่ม น.ส.ปริศนา นายกันต์ธร และ น.ส.ธาริณี พากันหลบหนีไปที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. จับกุมนายกันต์ธร ได้ตามหมายจับศาลอาญา เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 13.30 น. บริเวณจุดรับส่งผู้โดยสารท่าเรือลมพระยา ภายในบริเวณท่าเรือเกาะพะงัน หมู่ที่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนั้นมี น.ส.ธาริณี อยู่ด้วย โดยได้แจ้งข้อหาและจับกุมตามหมายจับศาลอาญาเช่นกัน ในข้อกล่าวหาร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขาย ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัว ผู้ต้องหาทั้งสองด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเป็นภัยอันตรายต่อสังคมประเทศชาติ หากได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองอาจจะหลบหนี ยากแก่การติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และอาจไปทำอันตรายหรือกระทำด้วยประการใดให้เกิดความเสียหายแก่พยานหลักฐานในคดีได้ ศาลสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ไม่มีญาติของผู้ต้องหาทั้งสองยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายกันตธร ไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.ธาริณี ถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
สำหรับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ น.ส.ปริศนา พบว่า มียอดเงินหมุนเวียนจำนวนมาก และมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินของ น.ส.ปริศนา จำนวนหลายคน ซึ่งมีนายกันต์ธร ร่วมด้วยทำหน้าที่เป็นผู้จัดหายาเสพติดให้กับกลุ่มของ น.ส.ปริศนา และ น.ส.ธาริณี ทำอาชีพออร์แกไนซ์รับจัดอีเวนต์บังหน้า แต่เบื้องหลังเป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดให้กับนายกันต์ธรอีกต่อหนึ่ง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับนายกันต์ธร กับ น.ส.ธาริณี และจากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าทั้งสองรู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก
สำหรับกลุ่มของ น.ส.ปริศนาหรือปุ๊กกี้ ทั้ง 3 คนนั้นปัจจุบันก็ถูกคุมขังอยู่ที่สถานบำบัดพิเศษกลาง และทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างการฝากขังครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีผู้ใดยื่นประกันตัว
# แฟ้มภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี