ตร.สภ.เพ็ญคุมตัวนายธนชัย ฆาตกรเหี้ยมฆ่าเจ๊หน่องฝากขังศาลจ.อุดรธานี ญาติโกรธจัดด่าแหลกไอ้ควายไม่เชื่อได้เงินไป 600 บาท ไม่ขออโหสิกรรมให้ขอโทษประหารชีวิตสถานเดียว ส่วนเจ๊ไรเพื่อนสนิทเจ๊หน่องโล่งใจหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยบอกวิญญาณเพื่อนไปดี ส่วนเมียนายธนชัย ตกใจและเสียใจไม่คิดสามีจะก่อเหตุร้ายแบบนี้ ส่วนตัวไม่เชื่อสามีจะลักทรัพย์ สงสารญาติของผู้เสียชีวิต ปล่อยให้สามีติดคุก
18 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายธนชัย โพธิ์นิล หรือนาย ผู้ต้องหาคดีฆ่าน.ส.เพชราพร สีดาคำ หรือเจ๊หน่อง อายุ 59 ปี เจ้าของร้านขายของ ภายในตลาดสดเพ็ญ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในห้องประชุม สภ.เพ็ญ เนื่องจากเกรงจะถูกชาวบ้านและญาติที่โกรธแค้นรุมประชาทัณฑ์ พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.เพ็ญ อำนวยการปฏิบัติทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ระหว่างการทำแผนที่ชั้น 2 ของโรงพัก ผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความรู้สึก
ข่าวเพิ่มเติม : จับหนุ่มเสิร์ฟ! ฆ่า'เจ๊หน่อง' สะอื้นไห้รับสารภาพ ชาวบ้านสาปแช่งประหาร
นายธนชัยพยักหน้าตอบสั้นๆว่า “กังวล” พร้อมยอมรับว่าที่ร้องไห้เพราะรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายธนชัยผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้กล่าวขอโทษต่อญาติของผู้เสียชีวิตทุกคน พร้อมยอมรับว่า ในครั้งแรกที่ก่อเหตุขโมยเงินนั้น ได้นำเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือและนำไปใช้จ่ายเป็นค่างวดรถ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านหมูกระทะในตัวเมืองอุดรธานี มีรายได้วันละประมาณ 200–300 บาท แต่ไม่แน่นอน บางวันมีงานจ้าง บางวันก็ไม่มี จึงทำให้ขัดสนทางการเงิน สาเหตุที่ตัดสินใจก่อเหตุก็เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังตลาดสดเพ็ญเพื่อดูสถานการณ์พบว่า มีชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าต่างมารอการทำแผน ซึ่งชาวบ้านต่างผิดหวังที่ตำรวจไม่พาตัวผู้ต้องหามาทำแผน จังหวะเดียวกันนี้ผู้สื่อได้พบนางไร อายุ 59 ปี เพื่อนสนิทของเจ๊หน่อง ได้เดินทางมาบอกลาไว้อาลัยยังจุดที่เจ๊หน่อง เสียชีวิต โดยนางไร บอกว่า ขอให้เพื่อนไปดีนะ ไม่ต้องหาห่วง อย่ามาหลอกฉันนะฉันกลัวผีขอให้หน่องไปสุขคติไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ฉันจะไปส่งดวงวิญาณที่วัด
นางสาวไร เปิดเผยว่า ตนกับผู้เสียชีวิต “เจ๊หน่อง” เป็นเพื่อนรักกัน โตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน และมีความผูกพันกันมาตลอด วันที่เกิดเหตุนั้นตนอยู่ที่บ้าน โดยช่วงแรกหลายคนสงสัยว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำ แต่เมื่อมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวไป ตนขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และไม่ทราบเรื่องราวใด ๆ
ด้านนางอุไร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่เร่งคลี่คลายคดี จับตัวผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว ทำให้ตนพ้นข้อครหาเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมามีผู้คนมากมายสงสัยและกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุ ส่งผลให้ตนเกิดความไม่สบายใจ เดินไปไหนมาไหนก็ถูกเพ่งเล็ง นอกจากนี้ นางอุไรยังเล่าว่า เมื่อคืนหลังเกิดเหตุ เวลาประมาณ 22.00 น. เจ๊หน่องได้มาหาที่บ้านในลักษณะเหมือนวิญญาณมาปรากฏตัว โดยนำเศษดินและมาวางไว้ที่หัวนอน ตนจึงเชื่อว่าเพื่อนรักอาจจะมาบอกว่า “ตายแล้วนะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำนายธนชัย (ผู้ต้องหา) เสร็จสิ้น ได้ควบคุมตัวขึ้นรถเพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาลจ.อุดรธานี ในจังหวะนั้นเอง ญาติๆ ของเจ๊หน่อง ได้เดินทางมาที่ สภ.เพ็ญ เพื่อดูหน้าคนก่อเหตุ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ ญาติพี่น้องของเจ๊หน่องต่างพากันโกรธจัดร้องตะโกนด่าและสาปแช่งตลอดเวลา บางคนถึงกับทนไม่ไหวถอดรองเท้าจะปาเข้าใส่หน้า และด่าไอ้ควาย ชิงหมาเกิด จิตใจทำด้วยอะไร มึงไม่มีปัญญาทำงานหาเงิน จะไม่ให้อภัยกับผู้ชายคนนี้แน่นอน ญาติบางคนถึงกับร้องไห้อย่างหนัก ตร.ต้องพยายามกันเอาไว้ก่อนรีบขับรถคุมตัวผู้ต้องหาออกไปทันที
น.ส.เบส อายุ 29 ปี หลานสาวของเจ๊หน่องผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในฐานะครอบครัวตนไม่สามารถให้อภัยคนที่ก่อเหตุฆ่าน้าหนูได้ แม้หลายคนจะบอกให้ให้อภัยหรือให้โอกาส แต่ในความเป็นจริงน้าถูกคนร้ายใช้จอบตีศีรษะจนเสียชีวิต โดยไม่มีโอกาศแม้แต่จะพูดขอชีวิตสักคำเดียว ตนและครอบครัวจึงต้องการให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษประหาร แม้กฎหมายไทยไม่สามารถบังคับใช้โทษประหารชีวิตได้จริง แต่ในฐานะญาติผู้เสียหายก็ไม่อาจให้อภัยได้ เพราะหากใครต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกันก็คงเข้าใจความรู้สึกนี้
ขณะเดียวกัน น.ส.หงส์ อายุ 19 ปี แฟนสาวของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เพิ่งทราบความจริงว่าแฟนของตนเป็นผู้ก่อเหตุเมื่อวานนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบถาม ทำให้รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะหลังจากก่อเหตุแล้ว แฟนหนุ่มก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด ตนเองกับนายธนชัยผู้ต้องหาคบหากันมาประมาณ 5 ปี นิสัยส่วนตัวที่เคยรู้จักนั้นแฟนหนุ่มไม่ใช่คนมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย จึงรู้สึกช็อกเมื่อทราบข่าวว่าไปก่อเหตุลักทรัพย์และฆาตกรรม อีกทั้งในวันเกิดเหตุ เขาไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย ยังคงทำตัวตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ตนกับแฟนทำงานอยู่ที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองอุดรธานี ซึ่งหลังเกิดเหตุ นางสาวหงส์ยอมรับว่าสงสารและเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุฆ่าโหดภายในตลาดสดอำเภอเพ็ญเมื่อวานนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนและตรวจสอบจากหลักฐานภาพวงจรปิด พบว่ามีชายต้องสงสัย 1 ราย ทราบต่อมาว่าคือ นายธนชัย หรือนาย ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ และแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จากการสอบสวน ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า นอกจากก่อเหตุครั้งนี้แล้ว ยังเคยเข้าไปก่อเหตุที่ร้านดังกล่าวมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้เคยขโมยเงินไปกว่า 20,000 บาท ส่วนในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาตั้งใจจะเข้าไปลักทรัพย์ แต่ผู้ตื่นขึ้นมาเจอหน้าผู้ก่อเหตุ และเนื่องจากผู้ตายเคยรู้จักผู้ต้องหามาก่อน สามารถจำหน้าได้ ทำให้ผู้ก่อเหตุลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพื้นที่เกิดเหตุจริง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย อาจถูกประชาชนทำร้าย จึงนำผู้ต้องหามาทำท่าทางประกอบคำรับสารภาพแทน โดยยืนยันว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ดูแลทรัพย์สินและเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี