ออกหมายจับแล้ว‘ชายหื่น’ข่มขืน6ขวบคาโรงเรียน แฉประวัติต้องคดีอื้อ
จากกรณี น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ลูกจ้างร้านสลัดผัก มารดา ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 6 ขวบ เดินทางเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก (คลอง7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณี ด.ญ.บี ถูกล่วงละเมิดทางเพศในห้องเรียนของโรงเรียน เพื่อติดตามคดีให้ความเป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลุงทำหนู! แม่ร้อง‘ปวีณา’ ลูกสาววัย6ขวบถูกข่มขืนคาโรงเรียน)
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (25 มิ.ย.62) พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม , พ.ต.อ.พีระเดช เจริญเดช ผกก.สภ.เมืองนครปฐม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พบชายอายุ 47-55 ปี เดินกวักมือและเดินตาม ด.ญ.บี เข้าไปในห้องเรียน ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น โดยห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องที่ 3 ที่มีห้องน้ำในห้องเรียน
นอกจากนี้จากการสอบปากคำ ด.ญ.บี พร้อม น.ส.ก้อย ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ทราบว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 07.45 น. โดย ด.ญ.บี ได้เดินมาที่ห้องเรียนเพื่อที่จะเอากระเป๋านักเรียนไปเก็บ แต่จู่ๆชายคนดังกล่าวซึ่งปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดได้เดินตามมาที่ห้องที่เกิดเหตุ และยื่นเงินให้ 20 บาท และบอกให้ถอดกระโปรง แล้วชายคนดังกล่าวได้ถอดกางเกง และทำอนาจาร จากนั้นชายดังกล่าวได้เดินหนีไป ต่อมา น.ส.ก้อย ทราบเหตุจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครปฐม
ด้าน พ.ต.อ.พีระเดช กล่าวว่า ผลการตรวจร่างกาย ด.ญ.บี ออกมาแล้ว พบว่าถูกข่มขืนจริง และแม่จะมีการย้ายสถานที่เรียนเพื่อความปลอดภัย โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกครูที่ดูแลเด็กนักเรียนมาสอบปากคำแล้ว ส่วนชายที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับแล้วเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี
“เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งชัดเจน เคยต้องคดีตั้งแต่ปี 51 , 55 , 56 , 57 มีคดีลักทรัพย์ , เสพยาเสพติด , อนาจาร เมื่อพ้นโทษออกมาก็กระทำผิดเหมือนเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป” ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าว
วันเดียวกัน ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ ซึ่งในวันนี้ได้มอบให้นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน(ฉก.ชน.) สพฐ. และนายปริญญา จุฑาสงค์ ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ฉก.คศ.) สพฐ. และคณะลงไปร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ และเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกันนี้ก็ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และ ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
ด้านนายธีร์ กล่าวว่า ตนและคณะได้รับมอบหมายให้ลงมาร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อมาติดตามตรวจสอบนักเรียนที่ถูกละเมิด รวมทั้งไปตรวจสอบที่โรงเรียนเกิดเหตุ และหารือกับเขตพื้นที่การศึกษาฯ จ.นครปฐม แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนมีมาตรการแนวทางป้องกันดีพอสมควร โดยติดกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียน จำนวน 16 ตัว แต่มีข้อจำกัดในเรื่องรั้วโรงเรียนไม่มี เนื่องจากโรงเรียนอยู่ภายในวัด และกล้องบริเวณจุดที่เกิดเหตุก็กดต่ำลง แต่ยังสามารถดูจุดอื่นประกอบได้ ขณะนี้ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว พบว่าคนร้ายได้อาศัยช่วงที่คุณครูคุมนักเรียนไปเข้าแถว แล้วบังเอิญในวันเกิดเหตุเด็กนักเรียนคนดังกล่าวมาโรงเรียนสาย และเด็กได้เข้าไปในห้องเรียน คนร้ายจึงเดินตามไปละเมิดทางเพศโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
“ขณะนี้ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว กำลังเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งคนร้ายรายนี้เป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และมีประวัติอาชญากรรม ทั้งคดีขโมยของ เคยละเมิดเด็กมาก่อนด้วย ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ และผมก็อยากให้เพิ่มโทษกับผู้กระทำผิดกลุ่มนี้ ไม่อยากให้มีการอภัยโทษ เพราะออกจากคุกมาก็ก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้ติดคุกยาวไปเลย ขณะนี้ผู้ปกครองเด็กก็หวาดกลัว เพราะยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ก็อยากให้ลูกย้ายไปเรียนที่อื่น” นายธีร์ กล่าว
นายธีร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ สพฐ.ได้ให้สำนักงานเขตพื้นที่ฯ ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่า ทางโรงเรียนหละหลวมในการดูแลนักเรียนหรือไม่อย่างไร หากผลการตรวจสอบออกมาพบว่ามีความหละหลวมก็จะต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี