‘ตม.นครปฐม’ลุยตรวจค้นแคมป์คนงาน รวบผู้ให้ที่พักพิงไม่แจ้งที่พักต่างด้าว 139 ราย โทษปรับบาน

‘ตม.นครปฐม’ลุยตรวจค้นแคมป์คนงาน รวบผู้ให้ที่พักพิงไม่แจ้งที่พักต่างด้าว 139 ราย โทษปรับบาน

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 20.05 น.

‘ตม.นครปฐม’ลุยตรวจค้นแคมป์คนงาน รวบผู้ให้ที่พักพิงไม่แจ้งที่พักต่างด้าว 139 ราย โทษปรับบาน

18 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ระหว่างวันที่ 17-25 ธ.ค. 68 นั้น พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) , พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ รอง ผบก.ตม.3 มีนโยบายสั่งการให้ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.ตม.จว.นครปฐม ปูพรมจัดระเบียบพื้นที่ทันที โดยมุ่งเป้าบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง อย่างเข้มข้น เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมที่แฝงตัวมากับแรงงานต่างด้าว สามารถจับคุมผู้ให้พักพิงโดยไม่แจ้งสถานที่ให้ทราบซึ่งมีโทษอัตราปรับ ยอดเงิน เข้ารัฐกว่า 2 แสนบาท


พ.ต.อ.จิรพงศ์ เปิดเผยว่า ตน พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรโชติวัจน์ คล้ายคลึง รอง ผกก.ตม.จว.นครปฐม , พ.ต.ท.มิตรชัย พรมจันทร์ สว.ตม.จว.นครปฐม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.นครปฐม บูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จัดหางาน , แรงงานจังหวัด , กอ รมน และตำรวจพื้นที่ ปูพรมเข้า X-Ray พื้นที่เป้าหมายในเขต ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หลังการสืบสวนทราบว่าเป็นจุดที่มีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่หนาแน่น

จากการจู่โจมเข้าตรวจสอบห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ต.สระพัฒนา พบพิรุธว่าไม่มีประวัติการแจ้งเข้าพักอาศัยในระบบเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารประจำตัวของกลุ่มแรงงานสัญชาติเมียนมาอย่างละเอียดผ่านระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) ผลปรากฏว่า พบต่างด้าวพักอาศัยอยู่จริงถึง 139 ราย โดยที่เจ้าบ้านหรือผู้ดูแลเพิกเฉย ไม่ได้ดำเนินการแจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 อย่างชัดเจน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของและผู้ดูแลในฐานความผิด "เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครองเคหสถาน รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยโดยไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่กำหนด" และดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายแบบเรียงตัว รวม 139 ราย คิดเป็นยอดเงินค่าปรับสูงถึง 222,400 บาท พร้อมทั้งได้กำชับและประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ทางกฎหมายที่กลุ่มมิจฉาชีพอาจใช้เป็นที่กบดาน

พ.ต.อ.จิรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการกวาดล้างตามนโยบาย ตร. หากพบคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่ากระทำผิดกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครปฐมทราบได้ทันที ทางเราพร้อมดำเนินการตรวจสอบและหากพบความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดในทันที ไม่มีละเว้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top