3 กรกฎาคม 2562 จากกรณีที่เมื่อวันที่ 2 ก.ค.62 เพจหัวร้อน ได้โพสต์คลิปภาพและข้อความของแม่เด็กหญิงวัย 5 ขวบรายหนึ่ง ที่นั่งสอบถามลูกสาวของตนเองที่ถูกเด็กชายวัย 16 ปี ซึ่งเป็นญาติข้างบ้าน กระทำชำเรา ข่มขืน และมีการข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร โดยความยาวคลิป 5 นาที พร้อมระบุข้อความว่า
“อมนกเขา เดี่ยวให้เงินไปกินขนม...อยากขอความช่วยเหลือหน่อยคะ ลูกสาวเราอายุ 5 ขวบ 11 เดือนเล่าให้ฟังว่า ถูกกระทำอนาจารเราแจ้งความไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. ครบ 3 เดือน ตอนนี้ยังไม่คืบหน้าไปไหนเลยคะ คนกระทำผิดยังต่อยมวยออกทีวีเหมือนมีคนช่วยเยอะ เราต้องการให้คนผิดติดคุกเพราะทุกวันนี้คนเลี้ยงผู้กระทำผิดชอบแอบด่าลูกสาว คนกระทำผิดเป็นญาติกับเราอายุ 16 อยากให้ทุกคนช่วยแชร์และช่วยเอาความยุติธรรมให้ลูกสาวหน่อยคะ ที่เราเอาคลิปลงอยากให้ฟังจากปากเด็กเราไม่เคยคิดจะเอาเงินจากเขาแต่เราอยากให้คนทำผิดเข้าคุกมากคะอยากได้ความยุติธรรม”
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต้องการให้นำตัวมาลงโทษ และประณามถึงการกระทำดังกล่าว และมีการแชร์ออกไปจำนวนมาก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเด็กหญิงวัย 5 ขวบคนดังกล่าว ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยพบกับครอบครัวของเด็กหญิง และได้พูดคุยกับนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เป็นมารดาของเด็กหญิง เบล (นามสมมุติ) วัย 5 ขวบ ซึ่งเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สุดช้ำที่จะพูดออกมาได้เพราะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ว่าลูกสาวของตนเอง หรือ น้องเบล (นามสมมุติ) ถูกเด็กชัยวัย 16 ปี เป็นญาติและอยู่บ้านติดกัน กระทำชำเรา ข่มขืน และขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร และทำติดต่อกันถึง 5 ครั้ง จนลูกสาวติดโรคหนองในเทียม ต้องทานยาตามที่แพทย์สั่ง
หลังจากแจ้งความแล้ว จนขณะนี้เรื่องยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนผู้ก่อเหตุยังคงไปต่อยมวยออกทีวีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตำรวจได้เพียงแต่โทรมาแจ้งให้ทราบว่าสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วแต่ต้องปล่อยตัวเพราะญาติขอประกันออกไปสู่คดี ซึ่งตนเองเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคาดว่า มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือเด็กชายคนดังกล่าวในเรื่องคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นนักมวยฝีมือดี และป้าของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแม่บุญธรรมมาต่อว่าลูกสาวของตนเอง ว่าทำให้ครอบครัวเขาเดือดร้อน ตนเองจึงได้ตัดสินใจติดต่อมายังเพจดังกล่าว เพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงเพื่อขอความยุติธรรมให้กับลูกสาววัย 5 ขวบ และครอบครัวของตนเอง รวมไปถึงเด็กหญิงที่อาศัยอยู่ในแถวบ้าน ซึ่งมีอยู่หลายคนเกรงว่าจะได้รับอันตรายในอนาคต
คุณแม่ของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ กล่าวต่อว่า ตนได้เลิกรากับพ่อของลูกสาวและย้ายไปทำงานอยู่ที่จังหวัดพังงา โดยปล่อยให้ลูกสาว 2 คนอยู่กับตายาย ซึ่งเป็นพ่อกับแม่ของตนเอง โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ตนได้รับข้อความจากพ่อว่า ให้ขึ้นมารับลูกสาว คือน้องเบล (นามสมมุติ) วัย 5 ขวบ ไปอยู่ด้วย เนื่องจากโดยเจ้าพู (นามสมมติ) วัย 16 ปี เด็กข้างบ้าน ข่มขืนหลายครั้ง ซึ่งตนตกใจมากและได้โทรกลับไปสอบถามเรื่องราวทั้งหมดกับพ่อ
เมื่อทราบความจริงทั้งหมดตนได้แต่เสียใจและโกรธแค้นมาก จึงได้ขอให้พ่อดูลูกสาวก่อนซึ่งตนต้องลางานเพื่อเดินทางไปรับ แต่เนื่องจากพ่อกลัวว่าหลานจะถูกกระทำอีก ตนจึงได้ขอให้พ่อและแม่ได้ส่งตัวลูกสาวโดยให้ขึ้นรถทัวร์มาพร้อมพี่สาว เพราะน้องยังเล็กมาก ส่วนตนเองไปรอรับอยู่ที่ท่ารถทัวร์ โดยจะติดต่อกับทางลูกสาวคนโตตลอดการเดินทาง เมื่อลูกสาวเดินทางมาถึงตนได้รับไปรับประทานอาหารและเดินทางกลับที่พัก จึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ซึ่งลูกสาวเล่าให้ฟังอย่างละเอียดจำได้ทุกจุดและเหตุการณ์ที่โดนกระทำ ลูกสาวยืนยันว่าถูกกระทำทั้งหมด 5 ครั้ง แต่ละครั้งจะให้อมอวัยวะเพศ และบอกจะให้ค่าขนม แต่ลูกสาวไม่ทำตามจึงถูกให้นอนค่ำและถอดเสื้อผ้าก่อนลงมือข่มขืน ลูกสาวเล่าว่า ตนร้องว่าเจ็บผู้ก่อเหตุจึงชักออก และมาสำเร็จความใคร่ด้านนอก ทำให้ตนหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจและโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ซึ่งตนเองเชื่อว่าลูกสาวไม่โกหกแน่ เพราะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดจำได้แม่นยำ และเด็กเล็กขนาดนี้ไม่น่าจะโกหกเป็นเรื่องเป็นราว
คุณแม่ของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เล่าอีกว่า จากนั้นตนจึงเดินทางกลับราชบุรี เมื่อวันที่ 10 เมษายน เพื่อมาปรึกษาพ่อกับแม่ และตัดสินใจนำลูกสาวเข้าแจ้งความต่อตำรวจที่ สภ.บ้านโป่ง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตนพาลูกสาววัย 5 ขวบ ไปตรวจร่างกายเพื่อหาร่องลอยของการถูกกระทำชำเรา ตนจึงรับพาไปโรงพยาบาลบ้านโป่งทันที และพาลูกสาวไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย แพทย์ได้แจ้งกับตนเองว่า ผ่านพ้นมา 10 วันแล้ว ร่องรอยที่ถูกกระทำชำเราอาจจะไม่หลงเหลือหรือตรวจได้แน่ชัด ต้องส่งตัวไปตรวจที่ รพ.ศิริราช และจะต้องผ่าช่องคลอดตรวจดูเนื่องจากน้องยังเล็กมาก
ซึ่งตนเองปรึกษาแล้วว่าไม่อยากให้ลูกผ่าเนื่องจากจะเจ็บมากและแพทย์ไม่แนะนำ แต่แพทย์โรงพยาบาลบ้านโป่ง ได้นำสำลีพันไม้สอดเข้าไปตรวจในอวัยวะเพศ และตรวจพบการติดเชื้อหนองในเทียม แพทย์จึงได้สั่งให้ทานยารักษาโรคหนองในเทียม พร้อมด้วยยาต้านไวรัส HIV เป็นเวลา 1 เดือน และให้กลับมาตรวจซ้ำเมื่อครบ 3 เดือน ส่วนผลทางคดีจะส่งไปให้กับทางพนักงานสอบสวยเจ้าของคดี จนวันนี้ผ่านไปเกือบ 3 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า ผู้ก่อเหตุยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของตนเองด้วย
ด้านน้อง เบล (นามสมมุติ) เด็กหญิงวัย 5 ขวบ เล่าให้ฟังว่า ตนถูกพี่ที่อยู่ข้างบ้าน ชื่อพู (นามสมสมมุติ) เด็กชายวัย 16 ปี ข่มขืน ตน 5 ครั้ง โดยครั้งแรก ถูกกระทำที่บ้านของนายพู ซึ่งวันเกิดเหตุ เด็กชายพู (นามสมสมมุติ) ได้กระชากแขนของตนเองเข้าไปในบ้าน โดยเปิดหนังโป๊ให้ดู ซึ่งมีน้องเด็กผู้ชายชื่อ เมล (นามสมมุติ) รุ่นเดียวกับตนเอง อยู่ด้วยอีกคน
จากนั้นเด็กชายพูได้เข้ามาและให้ตนอมนกเขา และบอกว่าจะให้เงินไปซื้อขนม แต่ตนไม่ยอมอมและไม่เอา และถูกเด็กชายพู สั่งให้นอนหันหลังก่อนที่เด็กชายพูจะขึ้นมานอนทับและใช้อวัยวะเพศสอดใส่เข้ามาทางด้านหลัง ทำอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ตนจึงร้องว่าเจ็บทำให้เด็กชายพูหยุด เป็นเวลาเดียวกับที่ทางแม่บุญธรรมของเด็กชายจะกลับมาบ้าน และเปิดประตูไล่ตนเองออกมาจากบ้าน ซึ่งน้องเมล ได้บอกกับป้าไปว่า พี่พูให้ดูหนังโป๊ จากนั้นได้พากันเดินกลับมาบ้านและไม่กล้าไปบอกใครเพราถูกขู่ไว้
จากนั้นครั้งที่ 2 เด็กชายพูได้เดินทางมาหาที่บ้านมายืนอยู่ตรงประตูห้อง ซึ่งตนเองก็ตกใจ จากนั้นเด็กชายพูบอกว่าจะไปขยำข้าวให้ตนทาน ซึ่งตนก็หันไปตักน้ำเพื่อที่จะมาดื่มกิน จากนั้นเด็กชายพูได้เดินเข้ามาในห้องและให้ตนเองไปนอนบนที่นอนโดยให้หันหลัง จากนั้นเด็กชายพูได้มาจับตนถอดกางเกง และกระทำการข่มขืน จนตนเองร้องว่าเจ็บ เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่กลับมาบ้านและเปิดประตูมาเห็นเด็กชายพูอยู่กับตนเอง พี่จึงถามเด็กชายพูว่ามาทำอะไรในห้อง เด็กชายพูตอบว่าเข้ามาขยำข้าวให้น้องกิน ก่อนจะรีบเดินกลับออกไป ซึ่งตนก็ไม่กล้าเล่าให้พี่ฟัง
จากนั้นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นวันถัดมา ตนกำลังนั่งเล่นกับเพื่อนอยู่ภายในบ้านของยายเล็กข้างบ้าน เด็กชายพูได้เดินเข้ามาและพาตนเองเข้าไปในห้องน้ำบังคับให้อมนกเขาซึ่งตนไม่อม ก่อนจะถูกสั่งให้นั่งหันหลังที่พื้นบริเวณข้างถังน้ำและทำการข่มขืนรอบแรก จากนั้นเด็กชายพูได้พาตนมาที่หน้าประตูห้องน้ำและสั่งให้นั่งหันหลัง ก่อนจะทำการข่มขืนเป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะสำเร็จความใคร่ซึ่งตนร้องเจ็บ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ เด็กหญิงแพน (นามสมมุติ) วัย 9 ขวบ เดินเข้ามาตามตนเองและเห็นเหตุการณ์ในขณะที่ตนเองถูกเด็กชายพูข่มขืน แต่ก็ไม่กล้าที่จะนำเรื่องไปบอกใคร
ครั้งที่ 4 เหตุเกิดที่บ้านของพี่อยู่ใกล้กับบ้าน ตอนนั้นตนเองนั่งเล่นกับเพื่อน 4 คน เด็กชายพู (นามสมมุติ) ได้เดินเข้ามาและให้เพื่อนคนอื่นกลับบ้านไป เหลือตนเองกับน้อง เพียง 2 คน จากนั้นเด็กชายพูได้ลงมือข่มขืนตนภายในห้องหลังดังกล่าว โดยให้น้องนอนหันหลังดูมือถือ เด็กชายพู ได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นได้ปล่อยให้ทั้งสองคนกลับบ้าน และทำเหมือนไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
ส่วนทางด้าน เด็กหญิงแพน (นามสมมุติ) วัย 9 ขวบ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า วันที่ตนเองเห็นเหตุการณ์นั้น เป็นวันที่ตนเองจะไปตามเด็กหญิงเบล (นามสมมุติ) ภายในบ้านของยายเล็ก จังหวะที่เดินเข้าไปได้ยินเสียงร้องจึงเดินเข้าไปแอบดู และเห็นน้องเบลกำลังถูกกระทำ จึงได้รีบเดินกลับบ้าน และไม่กล้าที่จะนำเรื่องไปบอกใคร จนวันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจบอกให้ตาและครอบครัวของน้องเบลทราบว่าน้องถูกข่มขืน ก่อนที่ตาของน้องเบลจะโทรไปเล่าให้แม่ของน้องเบลทราบในเวลาต่อมา
ขณะที่ทางด้าน นางดวงพร อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นป้าและเป็นแม่บุญธรรมของเด็กชายพู วัย 16 ปี กล่าวว่า ตนอยากขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวและหลานของตนเองด้วย ผลพิสูจน์ทางตำรวจยังไม่ออก ยังไม่อยากให้มากล่าวหา เด็กชายพู เพราะยังถือว่าบริสุทธิ์ ซึ่งตนเองได้สอบถามจากเด็กชายพูแล้ว และก็ยืนยันพร้อมที่จะไปสาบานที่หลวงพ่อบ้านแหลมได้ ว่าไม่ได้ลงมือกระทำชำเราอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
อีกอย่างเด็กชายพลุเป็นเด็กดี ทำงานโดยการรับจ้างต่อยมวยเลี้ยงชีพส่งเสียตัวเองเรียน ขยันทำงาน จะกลับบ้านก็ต่อเมื่อไม่มีงานขึ้นชก ไปอยู่ที่ค่ายมวยก็เป็นอาทิตย์ไม่ได้กลับมาบ้านเลย จึงอยากขอความเป็นธรรมเพราะสงสารเด็ก ไปโรงเรียนก็โดนเพื่อนประณาม ส่วนในเรื่องผลการตรวจพิสูจน์ หากออกมาว่ากระทำจริงตนก็ยอมรับและเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย แต่หากผลไม่ใช่ก็จะต่อสู้ทางคดีต่อไป
ส่วนทางด้านคดี พ.ต.อ.ศิริชัย ไชยดี ผกก.สภ.บ้านโป่ง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรอผลตรวจพิสูจน์ทางแพทย์ ที่จะตรวจหาร่องรอยการถูกละเมิดทางเพศ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำไว้ให้แล้วและให้ประกันตัวออกไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานและหลักฐาน และผลการตรวจของทางแพทย์เท่านั้น ซึ่งตนเองก็ทำการเร่งรัดอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี