19 มิ.ย. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump administration tightens social media vetting for foreign students ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) กลับมาดำเนินการอนุญาตให้ชาวต่างชาติทำวีซ่านักศึกษา สำหรับเข้ามาเรียนในสหรัฐฯ อีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) อย่างเข้มงวดมากขึ้น ว่าบุคคลนั้นมีทัศนคติไม่เป็นมิตรกับพลเมือง วัฒนธรรม รัฐบาล สถาบัน หรือหลักการก่อตั้งของสหรัฐฯ หรือไม่

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2568 รัฐบาลทรัมป์ได้สั่งการให้คณะผู้แทนต่างประเทศหยุดกำหนดนัดหมายใหม่สำหรับผู้สมัครวีซ่านักศึกษาและวีซ่าผู้มาเยือนแลกเปลี่ยน โดยระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศเตรียมขยายการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า จะมีการเผยแพร่แนวทางที่อัปเดตเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น

“ผู้สมัครที่มีประวัติการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับความรุนแรง หรือด้วยทัศนคติและกิจกรรมที่กล่าวข้างต้น คุณต้องพิจารณาความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะดำเนินกิจกรรมดังกล่าวต่อไปในสหรัฐฯ” ข้อความในโทรเลขที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2568 ถึงบรรดาคณะผู้แทนทางการทูตสหรัฐฯ ระบุ

ข้อความในโทรเลขฉบับนี้ยังกล่าวด้วยว่า  อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กงสุลขอให้ผู้สมัครเปิดเผยบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมดของตนต่อสาธารณะ และเตือนผู้สมัครว่าการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์อย่างจำกัดอาจตีความได้ว่าเป็นการพยายามหลบเลี่ยงหรือซ่อนกิจกรรมบางอย่างทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายบริหารได้เพิ่มมาตรการคัดกรองที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. 2568 สำหรับผู้สมัครวีซ่าที่ต้องการเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพื่อจุดประสงค์ใดๆ โดยโทรเลขของกระทรวงการต่างประเทศอีกฉบับหนึ่ง ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นโครงการนำร่องสำหรับการคัดกรองที่กว้างขวางยิ่งขึ้น

กระบวนการตรวจสอบใหม่ควรครอบคลุมถึงการตรวจสอบการปรากฏตัวทางออนไลน์ทั้งหมดของผู้สมัคร ไม่ใช่แค่เพียงกิจกรรมในสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น และกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือค้นหาหรือทรัพยากรออนไลน์อื่นๆ ที่เหมาะสม นอกจากนั้นในระหว่างการตรวจสอบ คำสั่งจะขอให้เจ้าหน้าที่ค้นหาข้อมูลที่อาจดูหมิ่นผู้สมัคร เช่น ในระหว่างการค้นหาตัวตนทางออนไลน์ คุณอาจค้นพบว่าผู้สมัครให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสหรือกิจกรรมของกลุ่มดังกล่าว และเสริมว่านั่นอาจเป็นเหตุผลที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ

รูบิโอ เปิดเผยว่า ตนได้เพิกถอนวีซ่าของผู้คนหลายร้อยหรืออาจถึงหลายพันคน รวมถึงนักศึกษา เนื่องจากคนเหล่านั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ขัดต่อลำดับความสำคัญของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของอิสราเอลในสงครามในฉนวนกาซา

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า นักศึกษาหญิงชาวตุรกีที่มาเรียนในมหาวิทยาลัยทัฟต์ส ถูกควบคุมตัวในศูนย์กักกันผู้อพยพในหลุยเซียนาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ หลังจากร่วมเขียนบทความวิจารณ์การตอบสนองของมหาวิทยาลัยต่อสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา ก่อนจะถูกปล่อยตัวหลังจากผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางอนุมัติการประกันตัว ขณะที่ฝ่ายที่มักวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์ ชี้ว่า การกระทำของรัฐบาลเป็นการโจมตีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ภายใต้การแก้ไขครั้งที่หนึ่งของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

แม้คำสั่งใหม่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดตารางนัดหมายให้กับผู้สมัครวีซ่านักศึกษาและวีซ่าแลกเปลี่ยนได้อีกครั้ง แต่คำสั่งดังกล่าวได้เตือนเจ้าหน้าที่ว่าอาจต้องมีการนัดหมายน้อยลงเนื่องจากต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น โดยโทรเลขระบุว่า เจ้าหน้าที่ควรพิจารณาปริมาณการจัดตารางนัดหมายโดยรวมและความต้องการทรัพยากรสำหรับการตรวจสอบที่เหมาะสม เจ้าหน้าที่อาจต้องจัดตารางนัดหมายกรณี FMJ น้อยลงกว่าที่เคย

คำสั่งดังกล่าวยังขอให้เจ้าหน้าที่จัดลำดับความสำคัญระหว่างการนัดหมายวีซ่าเร่งด่วนสำหรับแพทย์ที่เกิดในต่างประเทศที่เข้าร่วมโครงการทางการแพทย์ผ่านวีซ่าแลกเปลี่ยน รวมถึงผู้สมัครที่เป็นนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ซึ่งนักศึกษาต่างชาติมีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 15 ของทั้งหมด

ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ ฝ่ายบริหารได้เปิดฉากโจมตีหลายด้านด้วยการอายัดเงินช่วยเหลือและเงินทุนอื่นๆ มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ที่นี่สัดส่วนนักศึกษาต่างชาติคิดเป็นประมาณร้อยละ 27 ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมดเมื่อปี 2567 โดยโทรเลขกำลังขอให้เจ้าหน้าที่ในต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจสอบเหล่านี้ภายใน 5 วันทำการ

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/world/us/trump-administration-resuming-student-visa-appointments-state-dept-official-says-2025-06-18/

043...