5 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน เร่งสำรวจดอยหลวงเชียงดาวครั้งแรกหลังวิกฤตไฟป่า พบสภาพต้นไม้ถูกไฟไหม้ ตลอดไปจนถึงดอกไม้พันธุ์ไม้หายาก อย่างเช่น ค้อเชียงดาว กุหลาบขาวเชียงดาว เป็นร่องรอยจากการถูกไฟไหม้ป่าครั้งที่ผ่านมา หลังไฟป่าวอด เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวจึงเดินเท้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวเริ่มตั้งแต่จุดสตาร์ทบริเวณ เด่นหญ้าขัด-อ่างสลุงหลวง ไปจนถึงยอดดอย ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เพื่อหาร่องรอยความเสียหาย จะเห็นได้ว่าหลายดอยนั้นพบมีร่องรอยการถูกไฟไหม้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ทั้ง ดอยพิระมิดและกิ่วลม พบไฟป่าเผาไหม้เสียหายเยอะกว่าจุดอื่น จากภาพมุมสูงจะเห็นบางจุดที่ถูกไฟไหม้เป็นสีน้ำตาลบางต้นยืนต้นตายแต่หลังจากฝนตกลงมาเริ่ม มีต้นไม้ต้นหญ้าสีเขียวแซมขึ้นบ้างแล้ว
นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เปิดเผยว่าจากการสำรวจเบื้องต้นนั้นใช้ระยะเวลาในการสำรวจ 3 วัน แต่ละดอยได้รับความเสียหายจากไฟป่ามีพื้นที่ป่าเสียหาย กว่า 3700 ไร่ ดอกไม้และพันธุ์ไม้หายาก อาทิเช่น ค้อเชียงดาว และกุหลาบขาวเชียงดาวและฟองหินเหลืองถูกไฟไหม้ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการการล่าสัตว์ อาวุธที่ใช้ล่าสัตว์ และกะโหลกกวางผาซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน ซุกซ่อนอยู่ภายในซอกถ้ำ
ซึ่งหลังจากมีการสำรวจแล้วทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวได้นำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้ระดมความคิดเห็นทั้งภาครัฐและภาคประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เพื่อถอดบทเรียนในการแก้ปัญหาไฟป่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกจนทำให้ธรรมชาติที่งดงามถูกทำลาย ซึ่งจากการประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งมีการเสนอแนะให้มีการขึ้นสำรวจอีกครั้งหลังที่ฝนตกลงมาสภาพป่าจะกลับฟื้นคืนมาสมบูรณ์ดังเดิมหไม ปีนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปพิชิตดอยหลวงได้หรือไม่
ซึ่งถ้าหากว่าป่ายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ปีนี้อาจมีการปิดดอยหลวงและทางภาคีเครือข่าย และผู้ประกอบการในพื้นที่ช่วยกันแนะนำการท่องเที่ยวทางเลือก ที่ไม่ใช่การขึ้นยอดดอยหลวง อาทิ การเดินศึกษาธรรมชาติในป่ารอบดอยแบบ 1 วัน, การท่องเที่ยวโดยชุมชน (ตัวอย่างบ้านตึงงาม,บ้านหัวทุ่ง) การขึ้นดอยค้ำฟ้าที่เมืองคอง, การจัดการแสงสว่างในกลางคืนเพื่อทำให้เชียงดาวเป็นเมืองแห่งดาว, การชื่นชมความงามของดอยหลวงเชียงดาวจากมุมต่างๆ ด้านล่าง โดยรอบ (เหมือนภูเขาไฟฟูจิ) ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอำเภอเชียงดาวนั้นน่าจะเป็นเมืองที่ท่องเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ใช่แค่ฤดูหนาว และ ไม่ต้องเข้าเขตป่าสงวน โดยจะมีการระดมความเห็นต่อไป และทางภาคีจะช่วยทำสื่อประชาสัมพันธ์ "เที่ยวเชียงดาวเที่ยวได้ทั้งปี" เพื่อรวมแผนการท่องเที่ยวแบบต่างๆ ให้ครบ เนื่องจากชุมชนหลายแห่งมีความคิดริเริ่ม/มีสิ่งดึงดูดใหม่ๆ แต่ขาดการนำเสนอสู่สาธารณชน แต่ทั้งนี้ การท่องเที่ยวทุกมิติ นอกจากสร้างอาชีพและรายได้แล้ว จะต้องเป็นเครื่องมือสำคัญนำไปสู่การจัดการดูแลป่าและทรัพยากรร่วมกับชุมชนและภาครัฐ เพื่อความยั่งยืน และแก้ปัญหาไฟป่าฝุ่นควันด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี