เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมโรงแรมบุรีศรีภู บูติค โฮเต็ล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภาคคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.) จ.สงขลา พบนายถาวร เสนเนียม นายนิพนธ์ บุญญามณี สส.และอดีต สส.สงขลา พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ตัวแทนผู้ว่าการ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนา จ.สงขลา มีนายกวิศพงษ์ สิรินนนท์สกุล ประธานหอการค้าและตัวแทนภาคเอกชน จ.สงขลา และผู้เกี่ยวข้องประมาณ 100 คน เข้าร่วม

นายกวิพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน จ.สงขลา ได้จัดประชุมหารือข้อเสนอแนวทางในการพัฒนา จ.สงขลา เพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมได้มีมติเสนอโครงการรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฏร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา เชื่อมโยงเครือข่ายกับคมนาคมพื้นฐานอื่นๆ ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเกิดการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคทุกด้าน

“โครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา เตรียมรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจการส่องออกในไทย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นโครงข่ายสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้า การท่องเที่ยวระหว่างไทยกับมาเลเซียเพิ่มมากขึ้น  ปัจจุบันการค้า การส่งออกที่ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซษร์ รายได้อันดับต้นๆของการค้าชายแดน”

นายกวิพงษ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ฝั่งตะวันออก เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงข่ายเส้นทางคมนาคม รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ-สงัคมในอนาคตของพื้นที่เมืองหาดใหญ่ ให้เกิดเป็นโครงข่ายถนนวงแหวนรอบเขตเมืองหาดใหญ่ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางและขนส่งสินค้า มีความปลอดภัยและช่วยลดปัญหาการจราจรติดขันในเขตตัวเมืองหาดใหญ่

โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 เนื่องจากท่าเรือน้ำลึกสงขลาที่เปิดดำเนินการเมื่อปี 31 ไม่สามารถรับปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้น กรมเจ้าท่าได้พยายามจะขยายท่าเรือน้ำลึกแต่ไม่สามารถขยายได้ เนื่องจากมีแนวคูเมืองเก่า

“โครงการ Songkhla First Chinatown เป็นโครงการที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ จ.สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง จุดเริ่มต้นที่บ่อเก๋ง อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นจุดแรกที่ชาวจีนโพ้นทะเลอพยพเข้ามายังประเทศไทย จ.สงขลา ก่อนสมัยสุโขทัย โดยจะมีการบูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณประตูเมืองเก่า สืบสานเส้นทางประวัติศาสตร์ของชาวจีนแห่งแรกของสยาม พัฒนาการท่องเที่ยวที่มั่นคงยั่งยืนและเชื่อมต่อเป็นเส้นทางท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน สู่การท่องเที่ยวระดับสากล โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลก”

นายกวิพงษ์ กล่าวอีกว่า การจัดตั้งกลุ่มจังหวัด สงขลา-สตูล-พัทลุง เป็นกลุ่มจังหวัดใหม่ เนื่องจากมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ จัดตั้งกลุ่ม 18 กลุ่มจังหวัด 6ภาค ในส่วนภาคใต้กลุ่มจังหวัดภาคใต้อ่าวไทย มีจ.ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฏร์ธานี และจ.สงขลา โดยให้ จ.สุราษฏร์ธานี เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด

โครงการ Duty Free Zone ให้ จ.สงขลา เป็นพื้นที่ปลอดภาษีในเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริเวณด่านนอก และปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จากแนวคิดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนของ จ.สงขลาและเขตเศณษฐกิจพิเศษ จ.สงขลา เพิ่มให้การขยายตัวและเพิ่มโอกาสในการค้าและการลงทุน กำหนดบริเวณพื้นที่เศรษฐกิจในพื้นที่ด่านนอก ปาดังเบซาร์ เพื่อพัฒนาเป็นพื้นปลอดภาษีและโครงการการจัดการจราจรอัจฉริยะ

“โครงการ Mice City จ.สงขลา โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะยกระดับเมืองต่างๆของไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการจัดประชุมองค์กร การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมวิชาชีพและการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้านานาชาติ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้จัดงาน อันเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ เพราะปัจจุบันสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)หรือทีเส็บ ได้ลงนามกับเมืองหลักใน 5 ภูมิภาคได้แก่ กทม.เมืองพัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น ทีเส็บเห็นว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นเมืองไมซ์ซิตี้”

นายกวิศพงษ์ กล่าวข้อเสนอแนวทางการพัฒนา จ.สงขลา ที่ได้มาจากการประชุม กกร.เพื่อยื่นให้กับภาคการเมือง ซึ่งมีรัฐมนตรีจาก จ.สงขลานั่งในรัฐบาลประยุทธ์ 2 ถึง 4 คน หวังว่าจะได้รับสนองตอบ ว่าเป็นนิมิหมายที่ดีที่ภาคเอกชน ภาครัฐและภาคการเมืองได้นั่งปรึกษาหารือร่วมกัน ปัญหาและความต้องมาจากภาคเอกชนที่สัมผัสอยู่จริง โครงการที่ภาคเอกชนเสนอมาทั้งหมด ภาคการเมืองจะรับไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจสงขลา การค้าชายแดน ที่สร้างรายได้ปีละ 7 แสนล้านบาท ต้องขับเคลื่อนร่วมกัน ท่ามกลางความขัดแย้งของการค้าโลก การสร้างขีดความสามารถ

“ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 1 ที่ไม่เพียงพอกับการขนส่งสินค้า ต้องอาศัยท่าเรือปีนังในการขนถ่านสินค้าร้อยละ 70 ขนส่งสินค้าของภาคใต้ของไทยและการค้าชายแดน สร้างภาระผู้ส่งออก หากขยายท่าเรือสงขลา 2 สามารถลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ดังนั้นทุกโครงสร้างพื้นฐานที่ภาคเอกชนเสนอต้องขับเคลื่อนให้เร็วขึ้น” นายนิพนธ์กล่าว