เกิดเหตุวัยรุ่นนั่งสังสรรค์ริมเขื่อนสำนักไม้เต็งที่ราชบุรี ก่อนหนึ่งในกลุ่มเมาป่วนจนเกิดเขม่นกันจนเป็นเหตุให้ถูกสังหารด้วยอาวุธปืน 11 มม.ยิงตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาที่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรี ขณะที่มือปืนเลือดร้อนพร้อมพวกหลบหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 20.15 น.คืนวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ร.ต.ท.ศักรินทร์บุญมาก ร้อยเวร.สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้เสียชีวิตคาที่ในที่เกิดเหตุ 1 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย จึงรีบรายงานให้พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูล มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี โดยพระบรมราชานุญาต และกำลังตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวน เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็ง หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
โดยที่เกิดเหตุพบศพนายสุรศักดิ์ สมจิตร อายุ 18 ปี ชาวบ้านในหมู่ที่ 2 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่บริเวณริมเขื่อน สำนักไม้เต็งราชบุรี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่หน้าอกเหนือราวนมด้านซ้าย 1 นัดตัดขั้วหัวใจ และที่บริเวณลำตัวอีก 2 นัด เสียชีวิตคาที่ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย นอนร้องครวญครางอยู่บริเวณใกล้เคียงกับผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี
ทราบชื่อต่อมาคือนายณรงค์ศักดิ์ รุ่งบุญ อายุ 18 ปี พักอาศัยอยู่ในสำนักสงฆ์ปู่เจ้าเขาเขียว หมู่ 7 ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ถูกยิงเฉี่ยวต้นขาด้านขวา และนายวินัย กริชบุญธรรม อายุ 36 ปี อยู่หมู่ที่ 5 ตำบลอ่างหิน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ต้นขาทั้ง 2 ข้าง ให้การสบสน และในที่เกิดเหตุยังพบพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน 1กบ 4282 ราชบุรี จอดอยู่ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย และพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่จำนวน 4 หัวและปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 7 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อเร่งติดตามตัวคนกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายวันชนะ เฮงทต อายุ 25 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตนและกลุ่มผู้ตายได้มารวมกลุ่มกันนั่งสังสรรค์ประมาณ 10 กว่าคน ที่บริเวณริมเขื่อนชั้นบน ของสำนักไม้เต็งราชบุรี จนถึงช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. มีกลุ่มของมือปืนที่กำลังหลบหนีได้รวมกลุ่มกันมานั่งดื่ม ประมาณ 10 คนเศษ โดยมารถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยระหว่างที่มีการนั่งดื่มกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีชายวัยรุ่นเดินตรงเข้ามาถามกลุ่มผู้ตายว่า “ใครคุยกับจ๋า” ใครคุยกลับเด็กเขา ซึ่งทางกลุ่มของผู้ตายก็ปฏิเสธไป จากนั้นกลุ่มผู้ตายได้ลงมานั่งอยู่ที่บริเวณเกิดเหตุซึ่งเป็นสันเขื่อนด้านล่าง จากนั้นกลุ่มของมือปืนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามลงมาและทำกันบิดคันเร่งเครื่องยนต์เหมือนเป็นการท้าทาย ก่อนจะรีบขี่รถจักรยานยนต์กลับออกไป
นายวันชนะ เล่าอีกว่า จากนั้นไม่นานกลุ่มของผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ 3 ราย ได้ขับขี่รถจักรงานยนต์พุ่งตงลงมาหากลุ่มของผู้ตาย จากนั้นได้เข้าชกต่อยนายนายสุรศักดิ์ สมจิตร ขณะเดียวกับที่ 1 ในวัยรุ่น ได้เข้ามาห้าม จู่ๆ ชายอีก 1 ราย สวมเสือยืดคอกลมสีเทา กางเกงยืนขายาว และใส่หมวกแก๊ปปกปิดใบหน้า ที่เดินลงมาด้วยกัน ได้ชักอาวุธปืน 11 มม. ยิงเข้าที่นายสุรศักดิ์ สมจิตร จำนวน 3 นัด 1 นัดเข้าที่เหนือราวนมหน้าอกด้านซ้ายเจาะทำลุเข้าตัดขัวหัวใจจนเสียชีวิตคาที่ทันที ส่วนเพื่อนของผู้ตายอีก 2 รายถูกยิงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรี จากนั้นมือปืนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
นางสาวจ๋า สาวที่ถูกอ้าง เล่าให้ปัง เมื่อช่วงก่อนเกิดเหตุตนและกลุ่มผู้ตายได้นักสังสรรค์อยู่ที่บริเวณโคนต้นไม้ จากนั้นนายสุรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้ามายังกลุ่มของตนในสภาพมึนเมาและมาก่อกวนกลุ่มของตนเองทำให้เกิดความไม่พอใจ จากนั้นนายตุ๋ยได้เดินลงไปถามนายสุรศักดิ์ว่าใครแอบคุยกับ “จ๋า” ก่อนจะมีเรื่องชกต่อยกันซึ่งนายตุ๋ยได้ห้ามปรามเพื่อนไม่ให้ทำการชกต่อยกัน แต่เพื่อนอีก 1 คน กลับไม่ฟังได้ชักปืน 11 มม. ขึ้นมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตคาที่ในที่เกิดเหตุทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน และชุดเหยี่ยวดำ ได้ออกเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดโดยเฉพาะมือปืนรายนี้มาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี