พ่อสาวเหยื่อ‘ไข้เลือดออก’บุกรพ. คาใจไม่รับรักษาก่อนเสียชีวิต ร้อง‘อนุทิน’ช่วยด้วย

จากกรณี นส.หัทยา หงษ์ชารี หรือ “น้องกุ๊กไก่” อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนดงมูลวิทยาคม อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่เดงกี่ ซึ่งผู้ปกครองและญาติติดใจในขั้นการรักษาของโรงพยาบาลหนองกุงศรี

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 นายสมบูรณ์ หงษ์ชารี อายุ 48 ปี พ่อของน้องกุ๊กไก่ พร้อมญาติๆกว่า 10 คน ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลหนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เพื่อยืนยันความจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเวลา 04.00 น.วันที่ 11 กรกฎาคม 2562 ตนได้พาน้องกุ๊กไก่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เพื่อขอเข้ารับการรักษา หลังมีอาการอาเจียนและมีไข้สูง โดยพาไปที่จุดรับผู้ป่วยแผนกฉุกเฉิน ก่อนที่พยาบาลที่เข้าเวรจะวัดให้แค่ความดันและวัดไข้ แล้วบอกให้กลับบ้านก่อน โดยบอกว่าให้กลับมาเข้าคิวรับการตรวจอีกครั้งในเวลา 08.00 -09.00 น. ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และเป็นสาเหตุทำให้ลูกสาวอาการทรุดหนัก ช็อค และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า แม้ลูกสาวจะเสียชีวิตไปแล้วและฌาปนกิจศพไปตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถึงวันนี้ตนและญาติยังทำใจไม่ได้ ในขณะที่ยังเฝ้ารอน้ำใจจากแพทย์หรือพยาบาลที่เกี่ยวข้อง มาแสดงความเสียใจและชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเวลาล่วงเลยมาหลายวัน แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดมาแสดงความเสียใจเละรับผิดชอบ วันนี้จึงเดินทางมาที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีอีกครั้ง เพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล และผู้อำนวยการที่อยู่เวรในช่วงที่ตนพาลูกสาวมา ว่า ทำไมไม่รับลูกสาวเข้ารับการรักษาเพื่อรอดูอาการ เพราะมั่นใจว่าหากไม่บอกให้พาลูกสาวกลับไปก่อน คงจะไม่เกิดเหตุการณ์สูญเสียอย่างนี้ แต่รู้สึกผิดหวังเพราะไม่ได้พบตัว

นอกจากนี้ยังอยากสอบถามความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ว่าได้ดำเนินการคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เพราะตนและญาติๆรอคำชี้แจงและคำตอบ แต่ขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และยังไม่ดำเนินการสอบสวนแต่อย่างใด เหมือนกับเป็นการหลอกลวงเล่นปาหี่ให้กับชาวบ้านดูไปวันๆเท่านั้น

ด้านนายเดชา แก้วมงคล อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นอาน้องกุ๊กไก่ กล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวน้องกุ๊กไก่ยังรอและให้โอกาสทางแพทย์ หรือพยาบาลออกมาชี้แจง หรือแสดงความรับผิดชอบ แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีใครออกมาชี้แจงและไขข้อสงสัยเลย แต่กลับปล่อยให้เรื่องเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่มีผู้เสียชีวิตจากขั้นตอนการรับตัวเข้ารักษาในโรงบาล ดังนั้นในวันนี้จึงจำเป็นต้องมาสอบถามและบอกให้รู้ว่าถ้ายังนิ่งเฉย ไม่ออกมาชี้แจงภายในเวลา 4 วัน นับตั้งแต่วันนี้ ตน พร้อมญาติพี่น้อง รวมถึงชาวบ้านจะออกมาเคลื่อนไหวบุกไปประท้วงที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีอีกครั้ง และเดินทางเข้าขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมทั้งปรึกษาทนายในการยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรม เพื่อเรียกร้องสิทธิ

“ผมและญาติๆอยากเรียกร้องไปถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ป้ายแดง ให้ช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับน้องกุ๊กไก่ด้วย เพราะหากปล่อยเงียบอย่างนี้น้องกุ๊กไก่คงตายตาไม่หลับแน่นอน” นายเดชา กล่าว

ขณะที่นายแพทย์ประวิตร  ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.หนองกุงศรี ได้เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวน้องกุ๊กไก่ หลังจากญาติได้ทำพิธีบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจเสร็จแล้ว พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าไม่เห็นผู้บริหารของสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์มาเยี่ยมและร่วมงานศพ โดยมีนายสมบูรณ์ พร้อมญาติๆนั่งเฝ้ารอสอบถามการชี้แจง

นายแพทย์ประวิตร กล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของน้องกุ๊กไก่ ด้วยสาเหตุจากโรคไข้เลือดออก และผู้ปกครองติดใจกรณีพาลูกสาวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหนองกุงศรี ต่อมาส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และส่งตัวเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ แล้วได้เสียชีวิตนั้น สาเหตุที่ตนไม่ได้เข้ามาเยี่ยมและร่วมงานศพแต่ต้น เพราะติดภารกิจราชการสำคัญ แต่ได้มอบหมายให้รองนายแพทย์สาธารณสุขมาร่วมงานศพ และมอบเงินทำบุญให้แล้วจำนวนหนึ่ง

“หลังจากเดินทางกลับมาถึงกาฬสินธุ์ ได้รีบลงพื้นที่เข้ามาสอบถาม ให้กำลังใจครอบครัวน้องกุ๊กไก่ และมอบเงินทำบุญให้จำนวนหนึ่ง ในส่วนของทางจังหวัด โดยนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของน้องกุ๊กไก่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการ และผมยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาถึง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อคืนนี้ ซึ่งคงต้องดูรายละเอียดและปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้ง โดยจะเร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการเร็วๆนี้ และยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายแพทย์ประวิตร กล่าว