รับแก้ผ้านักข่าว
‘หมอเปรม’กลับลำสารภาพ
เลื่อนอ่านอุทธรณ์ลุ้นลดโทษ
หมอเปรมศักดิ์ เพียยุระ พร้อมเลขาฯคู่ใจ กลับลำในศาลอุทธรณ์ภาค 4 ขอรับสารภาพผิดข้อหาถอดกางเกงนักข่าวอาวุโส คาดหวังลุ้นได้ลดโทษ หลังจากที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ที่ศาลจังหวัดพล อ.พล จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม เวลา 09.10 น.ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดพล เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ เป็นจำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์ อดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาอนาจารและความผิดต่อเสรีภาพ (จับผู้สื่อข่าวแก้ผ้า) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ภายในห้องปฏิบัติราชการนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ตัดสินจำคุก นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.บัวทอง เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญาแล้วทั้งสองคนได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
อย่างไรก็ตามทนายความของจำเลยทั้ง2 ได้ขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทรณ์ออกไปก่อน โดยเหตุผลว่า ร.ต.บัวทองจำเลยที่ 2 ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าวได้ เนื่องจากป่วยลำไส้อักเสบ ขณะนั้นพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระยืน พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ประกอบคำร้อง ซึ่งทนายฝ่ายโจทก์ไม่ได้คัดค้าน ศาลจึงพิจารณาให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ออกไปตามคำร้องของจำเลย
ด้านนายปกาญจน์ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น ได้ส่งหนังสือมายังฝ่ายโจทก์ โดยแจ้งว่า นพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอรับสารภาพผิดตามฟ้องตลอดข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 และให้ยกเลิกหมายนัดการฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ซึ่งจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอรับสารภาพผิดตามตามฟ้องตลอดข้อกล่าวหาในชั้นอุทธรณ์
โดยคดีนี้ได้มีการสืบพยานจนครบแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ ว่า การรับสารภาพของ นพ.เปรมศักดิ์ อาจเป็นการรับสารภาพเพื่อหวังให้โทษลดลง เนื่องจากคดีนี้ ศาลจังหวัดพลได้พิพากษาตัดสิน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ให้จำคุก นพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง จำเลยที่ 2 ตามความผิดฐานกระทำอนาจารและความผิดต่อเสรีภาพ ให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ศาลจังหวัดพลก็จะส่งเรื่องกลับไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพื่อวินิจฉัยตามขั้นตอน จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค4 ก็จะส่งคำวินิจฉัยกลับมายังศาลจังหวัดพล เพื่อนัดฝ่ายโจทก์และจำเลยมาฟังคำตัดสินอีกครั้ง ซึ่งจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
“อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้งสองได้ขอกลับคำให้การใหม่ในชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เพื่อขอให้ศาลเห็นใจและลงโทษสถานเบา จากครั้งที่แล้วที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำเลยทั้ง 2 ให้จำคุกคนละ 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทางศาลอุทธรณ์ภาค4 จึงขอเลื่อนนัดให้คู่ความทั้งสองฝั่งมาฟังคำพิพากษาใหม่อีกครั้ง โดยจะแจ้งให้ทั้งโจทย์และจำเลยทราบอีกครั้งว่าจะนัดมาวันไหนเรื่องนี้ทางผู้ต้องหาสามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ศาลท่านจะเห็นใจจำเลย หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล เพราะจำเลยมามากลับคำให้การในชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าศาลท่านจะมีมุมมองอย่างไร” นายปกาญจน์ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี