เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 10 สายพันธุ์ 10,000 ตันช่วยชาวนาผู้ประสบภัยแล้งกรมการข้าวพร้อมแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ชาวนาที่ประสบภัยแล้ง แนะปลูกให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม ไม่เช่นนั้นจะสิ้นสุดฤดูฝนก่อนข้าวออกรวง
เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2562 นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวขาดน้ำระมาณ 10 ล้านไร่ ใน 20 จังหวัด ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน สกลนคร ขอนแก่น มุกดาหาร มหาสารคาม ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครสวรรค์ และลพบุรี ซึ่งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีไว้มอบให้ชาวนาที่ต้นข้าวเสียหายเพื่อปลูกใหม่ 10,000 ตัน หากระยะต่อไปมีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกข้าวได้โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เตรียมไว้เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง อายุ 95-120 วัน ได้แก่ พันธุ์ข้าว กข29 กข31 กข41 กข49 กข57 กข71 ชัยนาท1 พิษณุโลก2 สุพรรณบุรี1 และปทุมธานี 1
สำหรับสาเหตุที่แนะนำให้ปลูกข้าว 10 พันธุ์นี้เนื่องจากยังมีช่วงระยะเวลาเจริญเติบโตของลำต้นและใบเพียงพอต่อการออกรวงให้ผลผลิตได้ ทั้งนี้การเพาะปลูกควรทำให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 เดือนสิงหาคม 2562 เพราะจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนธันวาคม 2562 หากปลูกล่าช้าออกไปมากกว่านี้ จะมีน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากหมดฤดูฝนแล้ว ทำให้ต้นข้าวที่อยู่ในช่วงตั้งท้อง ออกรวงจะขาดน้ำ ทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่าร้อยละ 50
ส่วนวิธีการปลูกนั้น แนะนำให้ปลูกโดยวิธีหยอด โรยเป็นแถว หรือหว่าน ไม่แนะนำให้ปลูกด้วยวิธีตกกล้าปักดำเนื่องจากจะทำให้ต้นข้าวสามารถตั้งตัวและเจริญเติบโตได้เร็ว อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ปลูกที่เหมาะสมคือ ไร่ละ 10 - 15 กิโลกรัม กรณีต้นข้าวในระยะต้นกล้าหรือระยะแตกกอขาดน้ำประสบภาวะขาดน้ำเป็นระยะเวลาไม่นาน เริ่มมีอาการเหี่ยว หากต่อมาได้รับน้ำอย่างเพียงพอจะสามารถกลับมาเจริญเติบโตได้ต่อไปจึงขอให้เกษตรกรเพิ่มการดูแลรักษา ควรเร่งหาน้ำให้ปล่อยแปลงนาโดยเร็ว และใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินให้ถูกสูตร ถูกอัตรา และถูกเวลาเพื่อให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น กำจัดวัชพืชและข้าวเรื้อในแปลงนา พร้อมทั้งติดตามเฝ้าระวังการระบาดของโรคและแมลงศัตรูข้าวอย่างใกล้ชิด
นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ปลูกข้าวที่ประสบภาวะฝนทิ้งช่วงปี 2562 ส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคเหนือตอนบ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ 5 จังหวัดได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ซึงเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดีที่สำคัญของประเทศ อาจส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ไม่มีเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีและปริมาณเมล็ดพันธุ์ยังไม่เพียงพอที่จะเก็บไว้ใช้เองเพื่อปลูกในปีต่อไป รวมทั้งเกษตรกรบางรายขาดแคลนเงินทุนเพื่อจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งอาจทำให้ผลผลิตข้าวหอมมะลิมีคุณภาพต่ำลง และเกิดปัญหาต่อตลาดข้าวหอมมะลิที่ไทยส่งออก
ดังนั้น ในปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 (นาปี) กรมการข้าวจะเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดีให้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรเพื่อใช้ในการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิให้มีประสิทธิภาพ ผลผลิตมีคุณภาพสูง รักษาระดับปริมาณและคงความเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทยจากการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ได้มาตรฐานไปปลูกและไม่มีผลกระทบต่อการค้า-การตลาดของประเทศไทยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี