"อธิบดีดีเอสไอ"เผยคดีเกี่ยวโยง"วัดพระธรรมกาย" ยังมีคดีฟอกเงินอยู่ระหว่างการสอบสวนอีก10คดี และติดตามเงินสดจำนวน1,500ล้านบาท รวมทั้งทรัพย์อีก299รายการมูลค่า3,800ล้านบาท ส่งคืนให้กับผู้เสียหายสมาชิกสหกรณ์ฯ ขณะที่ทรัพย์สินของกลางอยู่ระหว่างพิจารณาคดีกว่า1,000ล้านบาท ส่วน"พระธัมมชโย"ยังไม่พบข้อมูลหลบหนีออกนอกประเทศ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 สิงหาคม 2562 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เป็นประธานการประชุมร่วมคณะทำงานดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณวัดพระธรรมกายและกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) นายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สืบเนื่องจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ กับพวก กระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษที่ 146/2556 มูลค่าความเสียหายประมาณ 13,000 ล้านบาท ทางคดีพนักงานอัยการได้ให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และยื่นฟ้องนายศุภชัย กับพวก ในความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา ต่อมาได้มีกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญา กับนายศุภชัย และผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการตบแต่งบัญชีงบการเงินสหกรณ์จนทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อและนำเงินเข้าฝากกับสหกรณ์เป็นจำนวนมาก ดีเอสไอจึงแยกสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 63/2557 ซึ่งการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการเห็นพ้องกันว่ามีพยานหลักฐานพอฟ้อง โดยพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ในปี พ.ศ.2559 พนักงานอัยการผู้พิจารณาสำนวนได้มีหนังสือแนะนำให้ดีเอสไอ ดำเนินคดีอาญากับผู้ที่มีพฤติการณ์โอน รับโอน หรือได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมูลฐาน แล้วปกปิดซุกซ่อนหรือเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สินในความผิดฐานฟอกเงิน แยกต่างหากจากคดีอาญามูลฐานเรื่องฉ้อโกงประชาชน โดยดีเอสไอมีการสอบสวนดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน จำนวน 23 คดี ในกลุ่มนี้มีการสอบสวนเสร็จและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้วจำนวน 12 คดี และมี 1 คดี ที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.แล้ว โดยยังมีคดีฟอกเงินที่อยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 10 คดี นอกจากนี้ ดีเอสไอ ยังดำเนินคดีกับนายศุภชัย ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯ จำนวน 27 ล้านบาทเศษ เป็นคดีพิเศษที่ 64/2557 อีกคดีหนึ่ง โดยคดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายศุภชัย 13 ปี ขณะนี้นายศุภชัย ถูกจำคุกตามคำพิพากษาดังกล่าว รวมมีคดีที่สอบสวนดำเนินคดีโดยดีเอสไอ รวมทั้งหมด 27 คดี สอบสวนเสร็จ 17 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 10 คดี
"สำหรับคดีวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโย และบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 1,458 ล้านบาทเศษ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.59 โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับพระธัมมชโย หรือ พระไชยบูลย์ สุทธิผล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งหลบหนีไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม รวมทั้งยังไม่พบข้อมูลว่าหลบหนีออกต่างประเทศ นอกจากนี้ ดีเอสไอติดตามเงินสดจำนวน 1,500 ล้านบาท และติดตามทรัพย์อีก 299 รายการ มูลค่า 3,800 ล้านบาท ส่งคืนให้กับผู้เสียหายสมาชิกสหกรณ์ฯ แต่ยังมีทรัพย์สินของกลางอีกจำนวนมากอยู่ระหว่างพิจารณาคดีกว่า 1,000 ล้านบาท"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี