จับแล้วคนร้ายขับจยย.ดักตีชาวบ้านสุรินทร์ คาดขัดแย้งส่วนตัว
จากกรณีมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “เส ขุนพลคอนสตรัคชั่น” โพสต์ภาพแจ้งเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์(จยย.) ตามประกบทำร้ายร่างกายน้าชายของผู้โพสต์ หวังชิงทรัพย์สินของมีค่า จนน้าชายต้องวิ่งหนีเข้าป่าเพื่อเอาตัวรอด เหตุเกิดบริเวณบ้านรังผึ้ง-บ้านโคกกลัน ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เตือนภัย!ชาวสุรินทร์แฉ‘ถนนอันตราย’ น้าชายถูกดักตีเลือดอาบหวังชิงทรัพย์)
ความคืบหน้าล่าสุด นายชาญชัย ชนะทะเล อายุ 38 ปี หลานชายของผู้บาดเจ็บ ได้พาผู้สื่อข่าวชี้จุดที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างบ้านอังกรวง และบ้านตะแสง ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมเปิดเผยว่า เส้นทางหลักเส้นทางนี้ ตนได้ยินและได้ข่าวมาว่ามีเหตุการณ์เกิดบ่อยมาก ล่าสุดมีน้องผู้หญิงโดนถีบรถ แต่ไม่ทราบแน่ว่าหวังจี้ทรัพย์หรือหวังข่มขืน ล่าสุดนั้นก็มีการโพสต์ทางเฟซบุ๊กอยู่ห่างประมาณ 2 เดือน แล้วก็มาเจอกับน้าของตน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นกับน้าชายก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ที่รู้คือน้าชายของตนนั้น ชาวบ้านแถวนี้เขาจะรู้ว่าไม่มีพิษมีภัยกับใคร ก็ยังงงว่าทำไมถึงโดนตี โดยไม่รู้สาเหตุ
“ปกติเส้นทางนี้ในช่วงกลางคืนจะเปลี่ยวมาก กลางคืนจะน่ากลัวมาก ก็ฝากกับคนท้องที่ใช้รถใช้ถนนแถวนี้ โปรดระมัดระวังด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงกับคนชรา และอยากจะฝากคนที่ทำว่าหยุดการกระทำแบบนี้ เพราะว่าเราใช้ท้องถนนด้วยกัน คือ อยากให้สังคมเราน่าอยู่มากกว่า เพราะถ้าเราคิดว่าจะเคยดักตีจี้ชิงทรัพย์แบบนี้ ผมคิดว่ามันคงไม่น่าอยู่ ถึงจับตัวไม่ได้ผมก็อยากให้เขาสำนึกผิด ให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้” นายชาญชัย กล่าว
จากนั้นนายชาญชัย ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของน้าชาย เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนางคำพอ เลิศรัมย์ อายุ 48 ปี น้องสาวของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไร โดยพี่ชายยังมาไม่ถึงบ้านกำลังไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกตกใจมาก และสงสาร เพราะพี่ชายคนนี้เป็นคนที่ซื่อมากๆ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่เคยบาดหมางกับใคร และอยากจะฝากคนที่ใช้รถใช้ถนนอยากให้ระมัดระวังทุกคนที่อยู่ในแถวหมู่บ้านนี้ ที่ใกล้และไกลก็แล้วแต่ เวลาขับขี่ในเวลากลางคืนก็ให้ระมัดระวังกันด้วย
ด้านนายจันทร์ แก้วงาม 58 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อตนขับรถมาถึงที่มืดพอดี จังหวะนั้นรถกระบะคันสีขาวแซงขึ้นไปก่อน แล้วรถ จยย.อีกคันก็ขับตามหลังมา พอมาถึงทางมืดก็โดนตีที่ท้ายทอยและโดนตีที่ด้านหน้าอีก 1 ครั้ง แล้วตนก็ล้มลง ตนจึงตั้งสติได้จึงลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอด ก่อนทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ไว้ตรงนั้นเพื่อเอาชีวิตรอดก่อน ตนคิดว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย เพราะว่าถ้าชิงทรัพย์ตนก็ไม่มีอะไร มีแค่ย่ามใบเดียว เงินทองก็ไม่มี ถ้าชิงทรัพย์น่าจะเอารถ จยย.ไปด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตตนก็ไม่เคยมีปัญหากับใครไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร เพิ่งมามีเรื่องในครั้งนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดย ร.ต.ท.รัฐพงษ์ พรมมี ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ควบคุมผู้ต้องหาไว้แล้ว คือ นายวินัย คิดกล้า เบื้องต้นนั้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายไว้ก่อนและจะสอบปากคำเพิ่มเติม
ด้านนายจันทร์ กล่าวหลังทราบว่ามีการจับกุมคนร้ายได้ ว่า คนร้ายนั้นอยู่บ้านใกล้กัน ซึ่งตอนแรกนั้นไม่รู้ว่าเป็นใคร คิดว่าเป็นคนอีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่พอตำรวจจับได้รู้สึกขอบคุณที่ตำรวจตามเรื่องให้จับได้อย่างรวดเร็ว สาเหตุที่เขามาทำร้ายเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ขอพูดถึง คนที่มาทำร้ายตนเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อ ซึ่งไม่เคยร่วมงานด้วยกันเลย
ขณะที่เพื่อนบ้านของนายวินัย กล่าวว่า นิสัยส่วนตัวนายวินัยไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และไม่น่าจะรู้จักกับนายจันทร์ โดยทั้งคู่เป็นสัปเหร่อเหมือนกัน ต่างคนต่างทำงาน ไม่เคยร่วมงานกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี