"‘เอ็มพาวเวอร์"ค้านตีทะเบียน"โสเภณี" เหตุไม่แก้ปัญหาส่วย-ค้ามนุษย์ ชี้แค่"ยกเลิกความผิด"ก็พอ
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ที่ รร.ฮิพโฮเทล ย่านรัชดา-ห้วยขวาง กรุงเทพฯ น.ส.ทันตา เลาวิลวัณยกุล ผู้ประสานงานมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ (Empower Foundation) กล่าวในงานแถลงข่าว "ยกที่ 1 ชัยชนะสิทธิพนักงานบริการ" ถึงกรณีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับนักวิจัยกลุ่มหนึ่ง กำลังยกร่างกฎหมายที่จะนำมาใช้แทน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 โดยอ้างแบบอย่างจากต่างประเทศ ซึ่งมีสาระสำคัญคือให้ผู้ขายบริการทางเพศต้องจดทะเบียน ว่าแนวคิดดังกล่าวอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุจริตและการค้ามนุษย์ได้
โดยแม้จะยกเลิกความผิดฐานค้าประเวณีโดยสมัครใจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 โดยไม่ต้องเขียนกฎหมายใหม่ขึ้นมาบังคับจดทะเบียน ลำพังกฎหมายอื่นๆ ที่มีอยู่ก็ทำได้ทั้งคุ้มครองและควบคุมอยู่แล้ว เช่น กรณีอยู่ในสถานบริการก็มีกฎหมายแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายว่าด้วยสถานบริการ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายคุ้มครองเด็ก กฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมถึงประมวลกฎหมายอาญากรณีมีการใช้ความรุนแรง เป็นต้น
"เพื่อนพนักงานบริการที่เยอรมนี บอกกับเราว่าส่วนมากถูกบังคับให้จดทะเบียนแล้วก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของร้าน ซึ่งไม่สามารถไปจดทะเบียนเองได้ นั่นก็เป็นช่องว่างให้เกิดการคอร์รัปชั่นอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะถ้าคุณจะไปจดทะเบียน เขาก็มีอำนาจจะให้คุณจดหรือไม่จดก็ได้ แล้วที่สำคัญจะมีคนจดทะเบียนแค่ 1 ใน 5 เท่านั้นเอง แล้วเพื่อนพนักงานบริการที่เยอรมนีก็บอกว่าการจดทะเบียนทำให้เกิดการค้ามนุษย์มากขึ้น ทำให้มองเห็นว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ว่าจะทำในรูปแบบใหม่ดีแค่ไหนก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น" น.ส.ทันตา กล่าว
ขณะที่ น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง ผู้อำนวยการมูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า วันนี้ พม.เอาจริงเรื่องการแก้ไขกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี โดยคาดว่าวันที่ 14 - 15 ส.ค.2562 จะมีการนัดประชุมหารือร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเป็นห่วงว่าผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีตัวแทนผู้ขายบริการทางเพศและตัวแทนภาคประชาสังคม (NGO) ไม่มากนัก
เท่ากับว่าเป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมให้ร่างกฎหมายเท่านั้นเนื่องจากได้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายแล้ว ฉะนั้นมีคำแนะนำว่า ภาคประชาชนต้องมีชุดข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อนำไปเสนอกับรัฐมนตรี พม.สำหรับชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่ทางกระทรวงทำมาก่อนหน้ารัฐมนตรีคนปัจจุบันจะเข้ารับตำแหน่งนั้นเป็นปัญหากับประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะงานวิจัยของคณะนักวิชาการกลุ่มดังกล่าว ว่าการตีทะเบียนจะยิ่งกลายเป็นการละเมิดซ้ำได้อย่างไร
"จากการที่เราไปสัมผัสบรรดาคนทำงาน ต้องพูดกันตรงไปตรงมาว่าเขาไม่มีความรู้เลย คือคนที่ลุกขึ้นมาทบทวน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ในตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ต้องพูดตรงไปตรงมาว่าเขาไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ที่จะทำงานในประเด็นนี้ แต่ทำเพราะเหมือนกับว่ามันเป็นหน้าที่" น.ส.นัยนา ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี