ปปท.เขต 4 เปิดผลสอบพบพนักงาน“รพ.กมลาไสย”แปลงใบเสร็จยักยอกเงิน เตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่บอร์ดบริหารตั้งอนุกรรมการไต่สวน 13 สิงหาคม นี้ พร้อมเดินหน้าสอบพบใครเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง พ่วงสอบขยายผลโยงความผิดปกติการสั่งซื้อยาที่ทำให้ชาวบ้านขาดยา จนต้องยืมกันกิน
จากกรณีชาวบ้านใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ลงชื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการย้ายนายแพทย์ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกนอกพื้นที่ โดยชาวบ้านอ้างว่านายแพทย์สาธารณสุขไม่ให้สั่งซื้อยา จนทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถสั่งซื้อยาจากบริษัทเพื่อนำมาแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้ครบ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน และโรคไต ซึ่งโรงพยาบาลกมลาไสย ยอมรับว่าขาดยาและสั่งซื้อยาไม่ได้จริง เนื่องจากเป็นหนี้กับทางบริษัทหลายล้านบาท และเอกสารบิลสั่งซื้อยาถูกสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอายัดไปตรวจสอบนานแล้ว แต่ยังไม่เสร็จส่งผลให้ประชาชนต้องยืมยากันกิน
กระทั่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขตสุขภาพที่ 7 ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาการขาดยา โดยได้เร่งดำเนินการจัดสรรยามาไว้ที่โรงพยาบาลกมลไสย เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยได้ตามปกติแล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชาวบ้านยื่นหนังสือจี้สอบปัญหาทุจริต 'รพ.กมลาไสย' ต้นเหตุทำให้ชาวบ้านขาดยา)
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เขต 4 เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว ป.ป.ท. ได้รับเรื่องกรณีการยักยอกเงิน ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังผู้อำนวยการโรงพยาบาลเข้าแจ้งความดำเนินคดีกรณีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยักยอกเงิน เบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2560 รวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท และเบื้องต้นพบผู้กระทำความผิดคนเดียว คือพนักงานของโรงพยาบาล ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดเก็บใบเสร็จการจ่ายยาของโรงพยาบาล ในแต่ละวัน ซึ่งวิธีการจะปลอมแปลงใบเสร็จขึ้นมาใหม่ เพื่อยักยอกเงินส่วนต่างไปใช้
ทั้งนี้ ป.ป.ท.เขต 4 ได้รับสำนวนการสอบสวน รวมทั้งหลักฐานในเบื้องต้นจากพนักงานสอบสวน สภ.กมลไสย จ.กาฬสินธุ์ แล้ว และได้เสนอเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณา และล่าสุดจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าเป็นเรื่องด่วนไปยังบอร์ดผู้บริหารในวันอังคารที่ 13 สิงหาคม นี้ เพื่อพิจารณาตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน หากบอร์ดผู้บริหารอนุมัติให้แต่งตั้ง ป.ป.ท.เขต 4 จะเดินหน้าไต่สวนเรื่องนี้ทันที โดยมีคณะอนุกรรมการมาจากบุคคลภายใน ป.ป.ท.เขต 4 และบุคคลภายนอกด้วย เพื่อที่จะร่วมกันสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หากตรวจสอบแล้วพบว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งรวบรวมพยาน หลักฐานส่งสำนวนไปเสนอต่ออัยการต่อไป
นายทองสุข กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีการตรวจสอบพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลกมลาไสย จนเอกสารถูกอายัดไว้ตรวจสอบที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ปัญหาการสั่งซื้อยาไม่ได้ของโรงพยาบาล และจ่ายยาไม่ครบให้กับผู้ป่วยตามที่เป็นข่าวนั้น เรื่องดังกล่าวทางอนุกรรมการจะมีการสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบเอกสารว่าทั้ง 2 เรื่องนี้มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ หากมีความเชื่อมโยงกันเจ้าหน้าที่ก็จะขยายผลตรวจสอบไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการสั่งซื้อยาด้วย และหากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะถูกเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กรณีการสั่งซื้อยา หากตรวจสอบแล้วไม่พบความเชื่อมโยงกันกับการยักยอกเงิน จะมีการแยกการตรวจสอบเป็นอีก 1 คดี และจะดำเนินการตรวจสอบทันที
แหล่งข่าวภายในโรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า เนื่องจากโรงพยาบาลกมลาไสยมีปัญหาความไม่โปร่งใสและปัญหาการดำเนินการที่ส่อไปในทางทุจริตหลายเรื่อง รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งภายในมานานหลายปี จนนำไปสู่ปัญหาต่างๆตามมา โดยเฉพาะปัญหาที่มีการยักยอกเงินของโรงพยาบาล ปัญหาระบบการจัดซื้อจัดจ้าง และปัญหาความผิดปกติของการสั่งซื้อยา จนทำให้โรงพยาบาลกมลาไสยเป็นหนี้สูงถึง 80 ล้านบาท และที่สำคัญทำให้ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชนและผู้ป่วย เช่น การสั่งซื้อยาไม่ได้ จนนำไปสู่การจ่ายยาไม่ครบและจำนวนน้อย ทำให้ผู้ป่วยต้องไปยืมยากันกิน
“เรื่องดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรตรวจสอบเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องการยักยอกเงินหายไป 5 ล้านบาท และปัญหาความผิดปกติการสั่งซื้อยาไปพร้อมๆกัน และเรียกร้องให้นำตัวผู้ที่มีส่วนพัวพันและเกี่ยวข้องกับทั้ง 2 เรื่องทั้งหมดออกนอกพื้นที่ เพื่อที่สะดวกในการตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่กล้าที่จะให้ข้อมูลที่เท็จจริง เพื่อให้การตรวจสอบเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทำงานได้อย่างสะดวก” แหล่งข่าว ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี