ช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน หลายคนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ก่อนกลับ ก็จะแวะสถานที่สำคัญทางศาสนา และกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน คู่เมือง ประจำจังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิต และเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป
อย่างที่จังหวัดอำนาจเจริญ ช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชน เดินทางไปที่วัดสุทธิกาวาส อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง วัดสุทธิกาวาส ตั้งอยู่บ้านวินัย ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ออกจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ด้านทิศตะวันออกไปตามถนนอรุณประเสริฐ ประมาณ 27 กิโลเมตร ถึงบ้านสามแยกชมพู เลี้ยวขวา เข้าถนนสายรองอีก 3 กิโลเมตร ถึงบ้านวินัย ก็จะพบเห็นพระธาตุลักษณะคล้ายพระธาตุพนม สูงเด่นชัดเจน ความสูง 30 เมตร ตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิกาวาส บนเนื้อที่ 30 ไร่ มีพระสงฆ์ 6 รูป สามาเณรไม่มี แม่ชีไม่มี มัคนายก 1 คน สังกัดมหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่ มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปแล้วหลายรูป
ทว่าที่โดดเด่นและน่าอัศจรรย์พุทธศาสนิกชนนับถือศรัทธามาก ก็คือ ภายในวิหารขนาดเล็ก ด้านทิศใต้ของวัด จะพบเห็นโลงแก้วบรรจุสังขาร พระครูสุทธิ พัฒนาภรณ์ หรือ หลวงพ่อศรีทา ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ก่อน ซึ่งมรณภาพผ่านไปแล้วกว่า 10 ปี อยู่ในสภาพห่มจีวร ไม่เน่า ไม่เปื่อย เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า ยังอยู่ครบ เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ที่แปลกยิ่งนัก ซึ่งโลงแก้วหลวงพ่อศรีทา ยกสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร พร้อมรูปถ่ายอยู่ด้านหน้า มีกระถางธูปเทียน สำหรับพุทธศาสนิกชนไว้จุดกราบไหว้บูชา และตู้รับบริจาคตั้งอยู่ข้างๆ ห่างไปประมาณ 2 เมตร ก็จะพบเห็นห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับนั่งสมาธิของหลวงพ่อศรีทา เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ช่วงระหว่างเข้าพรรษา 3 เดือน และหลวงพ่อศรีทานั่งสมาธิละสังขารที่นี่ ขณะมีอายุ 70 ปี
สำหรับ พระครูสุทธิ พัฒนาภรณ์ หรือหลวงพ่อศรีทา เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินธุดงค์ไปทั่วภาคอีสาน และข้ามไปฝั่งประเทศลาว จำพรรษาที่ถ้ำแกลบอยู่ 10 ปี ต่อมา ชาวบ้านวินัยนิมนต์กลับวัดบ้านเกิดจนกระทั่งอายุ 70 ปี ท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2549 ขณะนั่งสมาธิที่ห้องใต้ดิน พุทธศาสนิกชนจึงนำเก็บไว้ในโลงแก้ว รวมเวลา 13 ปี สภาพไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังแห้ง เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เมื่อพุทธศาสนิกชนทราบ จึงเดินทางเข้ามาดูให้เห็นกับตา พร้อมกราบไหว้ด้วยความศรัทธาทุกวัน
ส่วน พระธาตุปทุมราชวงศา เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนชาวอำนาจเจริญ ร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2518 ซึ่งเป็นปีเดียวกับองค์พระธาตุพนม จ.นครพนม ล่ม จึงได้นำเอาอิฐหินปูนจากพระธาตุพนมที่ล่ม มาผสมก่อสร้างเป็นพระธาตุปทุมราชวงศา ลักษณะรูปทรงจึงคล้ายกับพระธาตุพนมองค์จริง และได้มีการต่อเติมอยู่ตลอดเวลา จนเสร็จสมบูรณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาว จ.อำนาจเจริญ และจังหวัดใกล้เคียง ที่สำคัญ ทุกวันพระพุทธศาสนิกชนจะมีการเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุปทุมราชวงศา เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิต อยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง...
สนธยา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี