เครือข่ายประชาชนเตรียมล่ารายชื่อ จี้จังหวัดเชียงใหม่ทบทวน หลัง“ห้วยตึงเฒ่า”เตรียมจัดงานลอยกระทงปล่อยโคมลอยทำสถิติโลก ชี้ชัดไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม แถมก่อปัญหาซากตกมาเป็นขยะ เสี่ยงไฟไหม้ ทำชาวบ้านหวาดผวา
13 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า ตามที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และบริษัทท่องเที่ยว แถลงข่าวเตรียมจัดงานเตรียมจัดงานเทศกาลลอยกระทงนานาชาติแห่งประเทศไทย ปี 2562 ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ มีการระบุวัตถุประสงค์การจัดงานว่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีล้านนา โดยจะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 20,000 คน ที่จะร่วมปล่อยโคมลอยพร้อมกันเพื่อทำสถิติการปล่อยโคมลอยมากที่สุดในโลกบันทึกในกินเนสส์บุ๊ค พร้อมอ้างว่าได้มีการขออนุญาตฝ่ายที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการจัดงานดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะตำหนิที่จะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวในพื้นที่ความรับผิดชอบของทหาร ทั้งที่ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดี เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมามีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องจากภาคประชาชนที่ทำงานด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ที่ชี้ชัดว่าการปล่อยโคมลอยที่ระยะหลังนิยมปล่อยกันในช่วงงานยี่เป็ง หรือลอยกระทงนั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของล้านนา แต่เป็นเรื่องที่ประดิษฐ์ขึ้นมาในภายหลังเพื่อหวังกระตุ้นการท่องเที่ยว
อีกทั้งการปล่อยโคมลอยก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน จึงมีการรณรงค์ให้งดปล่อย จนกระทั่งจังหวัดเชียงใหม่มีการออกประกาศควบคุม
ด้านนางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเครือข่ายภาคประชาชนกำลังรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเตรียมจะนำไปยื่นให้กับทางจังหวัดเชียงใหม่และเจ้าของพื้นที่จัดงานดังกล่าว เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแนวคิดและการบริหารจัดการงานดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร โดยเห็นว่าการจัดงานดังกล่าวที่จะมีการจัดปล่อยโคมลอยทำสถิติโลกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งตลอดเวลานับสิบปีที่ผ่านมาหลายภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกันรณรงค์มาอย่างต่อเนื่องว่าการปล่อยโคมลอยนั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีล้านนาและยังก่อให้เกิดอันตรายจากการที่โคมลอยตกลงมาทำให้เกิดไฟไหม้บ้านเรือนหรือทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่าการจัดงานในครั้งนี้เป็นกลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาใช้พื้นที่จัดงานเพื่อขายแพ็คเก็จท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยกันเองหรือไม่ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตกอยู่กับคนเชียงใหม่จริงหรือไม่ ขณะที่ผลกระทบจากการจัดงาน เช่น ขยะจากซากโคมลอยที่ตกลงมา ใครเป็นผู้รับผิดชอบดูแล เช่นเดียวกับความเสี่ยงหรืออันตรายและความเสียหายจากการที่โคมลอยตกลงมาทำให้เกิดไฟไหม้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะคนที่ปล่อยโคมลอยหรือคนจัดงานอาจจะสนุกสนาน แต่ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงานครั้งนี้ที่บันทึกสถิติโลก ซึ่งอยากเรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนอย่างละเอียดรอบคอบ
“ประเด็นสำคัญที่สุด คือ การปล่อยโคมลอยนั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของล้านนา จึงไม่อยากให้มีการบิดเบือนวัฒนธรรมประเพณีแล้วนำไปขาย เพื่อหวังผลประโยชน์ที่ตกอยู่กับคนเพียงบางกลุ่ม แต่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดๆและคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี ขณะที่ในส่วนของข้ออ้างว่ากระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าที่จริงแล้วรายได้เข้ากระเป๋าใครแน่ เพราะแม้แต่โคมลอยที่มีการปล่อยกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังพบว่าผลิตในต่างประเทศ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่ยังปล่อยให้มีการจัดปล่อยโคมลอยแล้ว ก็เป็นที่น่าเสียใจและเหมือนทำให้การรณรงค์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสูญเปล่าไปทันที” ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี