“นครพนม”สานสัมพันธ์ไทย-ลาว ผ่านอาสายุวกาชาดชื่นมื่น เข้าค่ายอบรมการปฐมพยาบาล นำความรู้ใช้กับผู้สูงวัย
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2562 ที่บริเวณศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม/นายกเหล่ากาชากจังหวัดฯ เป็นประธานในพิธีเปิดและต้อนรับคณะอาสายุวกาชาดไทย-ลาว จำนวน 154 คน โดยสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย ร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และองค์การกาแดงลาว จัด “โครงการพัฒนาศักยภาพอาสายุวกาชาดไทย-ลาว (Thai-Lao Red Cross Youth Volunteers Capacity Building)” ระหว่างวันที่ 15-18 สิงหาคม 2562 ซึ่งในตลอด 4 วันกลุ่มยุวกาชาดที่กำลังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษาในประเทศของตน ได้เข้าค่ายอบรมร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน
นางสาวธาริกา วงศ์สินศิริกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด กล่าวว่า สำนักงานยุวกาชาด เป็นหน่วยงานหนึ่งของสภากาชาดไทย ที่มีภารกิจหลักในการปลูกฝังเยาวชนอายุระหว่าง 15-30 ปี ให้เป็นคนดี เก่ง รอบรู้ สุขภาพดี และเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนเหล่านี้ ให้เป็นที่พึ่งพาได้ของสังคม พร้อมเป็นกำลังสำคัญให้แก่ประเทศชาติต่อไป ดังนั้นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ในปี 2562 สำนักงานยุวกาชาด จึงร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และองค์การกาแดงลาว ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากคณะกรรมการกาชาดสากล จัด “โครงการพัฒนาศักยภาพอาสายุวกาชาดไทย-ลาว (Thai-Lao Red Cross Youth Volunteers Capacity Building)” ในรูปแบบค่ายพักแรมขึ้น โดยมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 154 คน ประกอบไปด้วย เยาวชนไทยจำนวน 126 คน และเยาวชนลาวจำนวน 28 คน พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์กรกาแดงลาว จำนวน 9 คน
นางสาวธาริกาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 4 วัน 3 คืนนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการฯจะได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะ เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการดูแลผู้สูงอายุ พร้อมส่งเสริมความเข้าใจในงานอาสาสมัครของสภากาชาดไทย ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกาชาดสากล สภากาชาดไทย หลักการกาชาด และการใช้เครื่องหมายกาชาด นอกจากนี้ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ยังจะได้เข้าร่วมกิจกรรม Youths in School Safety ที่กล่าวถึงบทบาทของเยาวชนในการส่งเสริมความปลอดภัยภายในโรงเรียน และ กิจกรรม Youths As Agent of Behavioral Change (YABC) ที่มุ่งสร้างและพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านความคิดและพฤติกรรมอันดี รวมพลังในการขับเคลื่อนให้เกิดสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป
ด้านนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ซึ่งมีฐานะเป็นนายกสำนักงานเหล่ากาชาดนครพนม กล่าวว่ารู้สึกเยาวชนที่ยุวกาชาดมีทั้งเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ต่างให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งเยาวชนทั้งของนครพนมและเยาวชนผู้แทนขององค์การกาแดงลาว อนาคตจะเป็นกำลังสำคัญของชุมชนและของประเทศ จะได้ใฝ่หาความรู้ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในการพัฒนาความรู้ ทักษะของตนเอง อันเป็นองค์ประกอบอันดับแรกของการเป็นเยาวชนที่ดี เพื่อจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไปในภายหน้า
“การเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล คือ Youths As Agent of Behavioral Change (YABC) และ Youths in School Safety(YSS) นอกเหนือจากการเรียนรู้เกี่ยวกับกาชาดสากลและสภากาชาดไทย จะช่วยให้เยาวชนทุกคนเกิดจิตสำนึกของการเสียสละ และเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ประการที่สองคือโครงการฯนี้ แสดงให้เห็นถึงสัมพันธภาพที่เข้มแข็งของภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งภายในและระหว่างประเทศ เป็นการยกระดับการทำงานให้แก่ผู้ปฏิบัติการที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-ลาว ให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการยอมรับในความคิดที่แตกต่าง ให้เกิดการพัฒนาศักยภาพอาสายุวกาชาดไทย-ลาว บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้” ผวจ.นครพนม กล่าว
สำหรับการเข้าค่ายอบรมของอาสายุวกาชาดไทย-ลาว ต่างร่วมกิจกรรมกันอย่างชื่นมื่น และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยมีพี่เลี้ยงทั้งสองฝ่าย ดูแลความสะดวกอยู่ห่างๆ ขณะที่วิทยากรก็สร้างความสนุกสนาน ให้ทุกคนมีความสุขในการอบรมตลอดทั้ง 4 วัน เพื่อตักตวงความรู้นำกลับไปใช้ได้จริง เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลและการช่วยเหลือคนผู้สูงวัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี