เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ที่ห้องพิจารณา 711 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1739/2558 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อายุ 62 ปี อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลย ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์
สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2558 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2556 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 และที่ประชุมมีมติเลือกนายศุภชัย จำเลย เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดที่ 29 อยู่ในตำแหน่ง 2 ปี ต่อมานายทะเบียนสหกรณ์ได้ตรวจสอบพบว่าการเรียกประชุมใหญ่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย นายทะเบียนจึงมีหนังสือลงวันที่ 23 เม.ย. 2556 ไม่รับรองตำแหน่งประธานกรรมการจากการประชุมดังกล่าว
ต่อมาสหกรณ์ยูเนี่ยนฯ ได้ประชุมใหญ่วิสามัญและมีมติให้การรับรองนายศุภชัย จำเลย เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อีกครั้ง และยังเปิดประชุมคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 2 สมัยสามัญ ครั้งที่ 1/2556 และมีมติแต่งตั้งนายศุภชัย จำเลย ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์ฯ อีกตำแหน่งด้วย
กระทั่งวันที่ 10 เม.ย. - 8 ต.ค.2556 จำเลย ซึ่งเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ได้กระทำการทุจริต โดยให้เจ้าหน้าที่บัญชีเบิกเงินสดของสหกรณ์ ผู้เสียหาย หลายครั้งหลายหนรวม 8 ครั้งๆ ละ ระหว่าง 184,000 - 6,000,000 บาท รวม 22,132,000 บาทเข้าบัญชีของจำเลย หรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริต เหตุเกิดที่ทำการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
เบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม ต่อมาระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2559 จำเลยได้ขอกลับคำให้การจากปฏิเสธ สู้คดี เป็นขอให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก , 353 , 354 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 8 กระทง จำคุกกระทงละระหว่าง 3 - 5 ปี รวมจำคุก 32 ปี คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 16 ปี เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วนับเป็นเรื่องร้ายแรง โทษจำคุกจึงไม่มีเหตุให้รอลงอาญา
จำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 , 354 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน รวม 8 กระทง กระทงละ 1 - 2 ปี รวมจำคุก 14 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 7 ปี โดยไม่รอลงอาญา
อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก ขณะที่จำเลยยื่นฎีกาคัดค้านขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย
วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายศุภชัย จำเลยซึ่งถูกคุมขังจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาฟังคำพิพากษา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยละเอียดแล้ว เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ และฎีกาคัดค้านของจำเลย มีเหตุตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้แล้ว ที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของคู่ความทั้งสองฝ่ายฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายว่า นอกจากนี้ นายศุภชัย กับพวก ยังถูกฟ้องเป็นจำเลยอีกหล่ยสำนวน อาทิ คดีหมายเลขดำ อ.3339/2559 ของศาลอาญา ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อายุ 62 ปี อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น , นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์ , นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการ , นางทองพิณ กันล้อม อดีตกรรมการ , นายณัฐวัฒน์ ปิยพัชร์เมธี อดีตผู้จัดการสหกรณ์ , นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์ , น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ , น.ส.วาริศา เอกชัยจินดาวัฒน์ อดีตกรรมการสหกรณ์ , นางจันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์ , นายธนากร น่าบัณฑิต อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ , นายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1 - 11 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343
กรณีระหว่างเดือน ม.ค.2551 - ธ.ค.2555 ร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับสมาชิกสมทบ ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ จำนวน 28 ราย รวมเงินสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหาย รวม 2,254 รายด้วย โดยคดีอยู่ระหว่างการสืบพยานของศาลอาญา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี