ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดเผยว่า การจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “สร้างและพัฒนาผู้นำเกษตรกรรุ่นใหม่” ในอ.ปางช่อง จ.นครราชสีมา” ส.ป.ก.นครราชสีมา 40 ราย โดยมอบหนังสือตกลงเข้าทำประโยชน์ที่ดินในเขตส.ป.ก. เป็นการชั่วคราว (ซึ่งจะใช้ระยะเวลารวมตลอดหลักสูตรประมาณ 2 ปี) โดยจะประเมินผลทุก 6 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนสาธารณูปโภคให้เกษตรกรทำการเกษตรได้ จึงจะประเมินการทำประโยชน์ของเกษตรกรตามเงื่อนไขของโครงการ ก่อนอนุมัติตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมกับมีการประเมินการเข้าทำประโยชน์ทุกๆ 6 เดือน และผ่อนผันได้ตามความพร้อมของเกษตรกร หากพร้อมและผ่านการฝึกอบรมจะได้รับมอบหนังสือตกลงเข้าทำประโยชน์ที่ดินในเขต ส.ป.ก. เป็นการชั่วคราว โดยกำหนดการใช้ที่ดินเป็น 2 ประเภทคือ แปลงที่อยู่อาศัยแปลงละ 2 งาน และแปลงเกษตรแปลงละ 2 ไร่ โดยให้เกษตรกรทดลองอยู่อาศัยและทำการเกษตรมาตั้งแต่ปี 2560
สำหรับแปลงพื้นที่ทำกินของชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ (แปลงนกยูง) นี้ หลังส.ป.ก.ยึดคืนพื้นที่มาแล้วได้นำมาจัดสรรให้เกษตรกรรุ่นใหม่เข้าอยู่อาศัยและทำเกษตรกรรม โดย ส.ป.ก.เข้าก่อสร้างปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น บ่อบาดาลและระบบกระจายน้ำ ถนนหินคลุกสายซอยในแปลงเกษตร พร้อมประสานหน่วยงานบูรณาการตาม MOU อาทิ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)สนับสนุนงบประมาณสร้างที่อยู่อาศัย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขยายเขตให้บริการไฟฟ้า นอกจากนี้ ส.ป.ก. ยังส่งเสริมพัฒนาให้เกษตรกรปรับปรุงบำรุงดิน อบรมอาชีพเกษตรกรรมทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ในรูปแบบอินทรีย์ อบรมการแปรรูปผลผลิต พร้อมทั้งสร้างตราสินค้าเพิ่มมูลค่า ตามนโยบายตลาดนำการผลิตสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกร
ปัจจุบันพื้นที่ทำกินของชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แห่งนี้ ก้าวหน้ามากในการพัฒนาอาชีพและกิจกรรมการเกษตรที่หลากหลาย พัฒนาต่อยอดความคิดไปสู่การรวมกลุ่มการผลิตจนทำให้ชุมชนเข้มแข็ง และยังมองถึงการยกระดับพื้นที่ไปสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรมแบบอินทรีย์ โดยปี 2561 ชุมชนกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (แปลงนกยูง)สร้างรายได้จากการทำการเกษตรในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน คิดเป็นมีรายได้รวม 2,195,662 บาท แบ่งเป็นรายได้จาก 1) การปลูกพืชผักผลไม้ 35 รายการ คิดเป็นรายได้ 1,216,090 บาท 2) เลี้ยงสัตว์ 5 รายการ คิดเป็นรายได้ 212,942 บาท และ 3) แปรรูปและอื่นๆ 9 รายการ คิดเป็นรายได้ 767,630 บาท จากแหล่งรายได้ที่กล่าวมาทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่ในพื้นที่แปลงนกยูงพึ่งพาตนเองได้ มีอาชีพที่ยั่งยืน และยังเป็นผู้นำเกษตรกรให้เกษตรกรรอบพื้นที่และผู้สนใจทั่วไปด้วย
“ส.ป.ก.ตั้งใจสร้างอัตลักษณ์ให้พื้นที่ตรงนี้เป็น “แลนด์มาร์คหรือ แหล่งผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ชั้นเยี่ยมของส.ป.ก.” เพราะเกษตรกรรุ่นใหม่ทุกคนที่นี่ทำเกษตรกรรมแบบอินทรีย์ ประกอบกับพื้นที่อ.ปากช่องเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจ.นครราชสีมา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงอยากให้เกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก.เป็นส่วนหนึ่งในการเสิร์ฟผลผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนในอ.ปากช่อง” ดร.วิณะโรจน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี