วันที่ 23 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ. วิชชาภพ กลางสูงเนิน รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจากโรงรับจำนำของเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ถนนศรีสุมังค์ ต.เมืองใต้ อ.เมืองศรีสะเกษ ว่า มีชายสองคนนำทองปลอมมาจำนำ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ทองรูปพรรณจริงจึงไม่รับจำนำ แต่ทั้งสองคนกลับโวยวายอาละวาด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบ ชายสองคนกำลังนั่งเอะอะโวยวายอยู่ที่เก้าอี้ต้อนรับลูกค้า ทราบชื่อคือนายไพบูลย์ แสงใส อายุ 42 ปี  และนายไพวรรณ อรรถวัน อายุ 45 ปี ทั้งสองเป็นชาว ต.ทุ่ม อ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมสร้อยข้อมือหนึ่งเส้น ซึ่งพนักงานโรงรับจำนำตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นสร้อยปลอม

ตำรวจสอบถามพนักงานของโรงรับจำนำ  บอกว่า ชายสองคนนี้ได้เดินเข้ามาพร้อมกับยื่นสร้อยข้อมือให้ บอกขอจำนำเมื่อทางพนักงานได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า สร้อยเส้นนี้ไม่มีส่วนไหนที่เป็นทองคำ หรือของมีค่า จึงปฏิเสธการรับจำนำ ทำให้ชายทั้งสองโวยวาย พนักงานจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุและสงบสติอารมณ์ของทั้งสองคน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามทั้งสองคน ซึ่งมีลักษณะคล้ายคนเมา พูดจาวกไปวนมา จับใจความได้ว่า สร้อยเส้นนี้ไม่ได้ขโมยมา แต่เอามาจากภรรยาที่สวมไว้ตั้งแต่เล็ก วันนี้เกิดทะเลาะกันเลยดึงสร้อยจากข้อมือภรรยาเอามาจำนำ โดยบอกว่าซื้อสร้อยเส้นนี้มาจากแถวเขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ในราคาเส้นละแสนกว่าบาท จะนำมาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่าย แต่พนักงานไม่รับจึงเกิดโมโห

นื่องจากทางโรงรับจำนำยังไม่เกิดความเสียหายจึงไม่ติดใจเอาความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ว่ากล่าวตักเตือน และให้กลับบ้านไปพักผ่อน โดยไม่ได้ดำเนินคดีใดๆ เนื่องจากว่า ยังไม่ได้มีผู้เสียหาย