“ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9” เปิดความคืบหน้าคดีปล้นร้านทองที่นาทวี เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง 80% คนร้ายมี 17-20 คน คาด 2 วันรู้ผล ชี้ก่อเหตุรูปแบบเดียวกับเหตุปล้นเต้นท์รถนาทวีเมื่อปี 60
ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกปล้นร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายกวาดทองคำไปเกือบเกลี้ยงร้านหนัก2,400 บาทและเครื่องเพชรทองคำแทงอีกบางส่วนรวมมูลค่าทั้งหมดกว่า85ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้(25 สิงหาคม 2562) พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9(ผบช.ภ.9) เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.นาทวี ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทั้งใน จ.สงขลา และปัตตานี ได้ดูพื้นที่เกิดเหตุและลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายให้น้ำหนักเชื่อมโยงว่าเกี่ยวกับคดีความมั่นคงถึง 80% ส่วนอีก 20% ต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ถึงจะฟันธงและสรุปได้
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า เหตุผลที่ให้น้ำหนักเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพราะดูจากพฤติกรรมในการก่อเหตุของคนร้าย เมื่อมองย้อนหลังกลับไปเหมือนกับคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี เมื่อวันที่16 สิงหาคม 2560 คือ มีการปล้นรถมาก่อน แล้วนำมาใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายที่ลงมือปล้นร้านทองจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยานมีอย่างน้อย 17-20 คน
“คนร้ายมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นอย่างดี ทั้งคนที่ทำหน้าที่ปล้นรถ ส่วนหนึ่งก็คุมคนขับรถเอาไว้ กลุ่มหนึ่งก็เอารถมาส่งให้กับทีมปล้นร้านทอง โดยในส่วนของทีมปล้นน่าจะมี 12 คน บางคนแต่งกายเป็นผู้หญิงแฝงตัวเป็นลูกค้ามาเคาะประตูร้านทอง เพื่อให้เปิดประตูเพราะต้องเปิดสวิทช์จากด้านใน และดันประตูเอาไว้ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืนสงครามก็บุกเข้าไปในร้าน” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว
ผบช.ภ.9 กล่าวถึงกรณีคนร้ายที่สวมชุดคล้ายทหาร ว่า คนร้ายไม่ได้แต่งกายด้วยชุดทหาร อาจจะมีบางคนที่สวมเสื้อลายพรางและนุ่งกางเกงยีนส์ ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารเหมือนกับที่ไปก่อเหตุสร้างความไม่สงบ โดยคดีนี้ขอเวลา 2 วันน่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวคนร้าย เพราะต้องรอผลการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนพยาน เนื่องจุดเกิดเหตุมีหลายจุด ทั้งจุดที่ปล้นรถที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จุดที่คนร้ายนัดรวมตัวรับคนขึ้นรถมาปล้น ซึ่งต้องตรวจทุกจุดอย่างละเอียดโดยเฉพาะรถตู้คันที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งได้ส่งไปตรวจเก็บลายนิ้วแฝงและร่องรอยของคนร้ายที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10
ส่วนเส้นทางในการก่อเหตุของคนร้าย พบว่า ขับรถมาจากตามเส้นทางแยกดอนยาง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังก่อเหตุเสร็จก็หนีนำรถไปทิ้งไว้ในพื้นที่สวนยางหมู่ 4 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี พร้อมทองที่ขโมยไป
“คดีนี้พบว่านอกจากรถตู้ที่ปล้นมาแล้ว ยังมีรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ 3 คัน เป็นรถรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กค 1828 ปัตตานี ซึ่งถูกขโมยมาเช่นกัน นำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเดียวกับที่ทิ้งรถตู้ ซึ่งอาจจะขับมารับคนร้าย แต่รถเกิดเสีย จึงทิ้งเอาไว้ ส่วนอีก2 คันเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ หมายเลขทะเบียน 1 กค 1827 ปัตตานี และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียน ขทอ 640 ปัตตานี ที่คนร้ายจี้เอาไปจากใต้ถุนบ้านหลังหนึ่งในหมู่ 11 ต.นาทวี อ.นาทวี ซึ่งยังไม่พบรถทั้ง 2 คัน แต่ได้แจ้งเตือนให้เป็นรถอันตรายแล้ว” ผบช.ภ.9 กล่าว
ผบช.ภ.9 กล่าวอีกว่า ในส่วนของรายละเอียดอื่นของคดีทั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีคนในร่วมด้วยหรือไม่ หรืออดีตลูกจ้าง เพราะคนร้ายรู้ทุกอย่างภายในร้านเป็นอย่างดี และลงมืออย่างง่ายดาย ในเรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี