“อภัยภูเบศร”เปิด“คลินิกกัญชา”ครั้งที่ 3 คึกคัก ประชาชนแห่เข้ารับบริการแน่น “ดร.สุภาภรณ์”เผยต่างชาติติดต่อขอเข้ารับการรักษา ชี้ไทยเป็นชาติแรกของอาเซียนที่เปิดคลินิกกัญชา ด้านเภสัชหนุนใช้“กัญชง”ขยายผลด้านการตลาด เปิดโอกาสนำไปใช้ในอาหารเสริม-เครื่องสำอาง
26 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิด “คลินิกกัญชา” เป็นครั้งที่ 3 ของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ป่วยจากหลายจังหวัดทยอยเข้ามาเข้ารับการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้มีการจ่ายน้ำมันกัญชา เพื่อติดตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคลมชัก , พาร์กินสัน ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแผนปัจจุบัน และเริ่มให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยด้วยยากัญชาสกัดจากของกลาง ที่ผ่านมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ทั้งนี้ คลินิกกัญชาดำเนินการภายใต้โครงการ “กัญชา อภัยภูเบศร โมเดล” ซึ่งเป็นต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุด โดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับอนุญาตให้ปลูก ผลิต และจ่ายยากัญชา เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาโรคกรณีผู้ป่วยรักษาแผนปัจจุบันไม่ได้ผล โดยคลินิกจะเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ที่ 4 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 13.00 – 16.00 น.
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ภายหลังจากที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดคลินิกกัญชาทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็มีต่างประเทศติดต่อสอบถามเพื่อขอเข้ารับการรักษากันเป็นจำนวนมาก เพราะโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดคลินิกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นแห่งแรกของอาเซียน
ด้าน ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สำหรับการประชุมภูมิปัญญาอาเซียนที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกัญชากันอย่างกว้างขวาง โดยกัญชงและกัญชาคือพืชชนิดเดียวกัน แต่คนละสายพันธุ์ ในพืชชนิดนี้มีการผสมข้ามสายพันธุ์กันมาก ทำให้กัญชงและกัญชาแยกออกจากกันยาก ในสหรัฐอเมริกา ที่ให้ปลูกกันจะเป็นกัญชง เนื่องจากมีสารเมาปริมาณต่ำ ไม่ก่อให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ทั้งนี้ ในส่วนของมูลค่าตลาดของกัญชานั้น ในแต่ละฐานข้อมูลมีมูลค่าแตกต่างกัน อาจเนื่องด้วยคำจำกัดความของกัญชา บางฐานข้อมูลการตลาดก็รวมกัญชงหรือ Hemp เข้าไปด้วย และยังมีประเด็นช่องทางการจำหน่ายที่ส่งผลให้มีการรายงานตัวเลขแตกต่างกัน แต่ที่แน่นอนตลาดโดยรวมมีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่ากัญชาสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้ โดยเฉพาะโรคที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษามาตรฐาน
ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อบ่งใช้ของกัญชาที่นำมาใช้กันมาก คือ บรรเทาปวด แต่โดยส่วนตัวมองว่าในประเทศไทยน่าจะคำนึงถึงความคุ้มค่าในการนำมาใช้ด้วย โดยอาการปวดนั้นหากมียาที่ราคาถูก ใช้ง่ายกว่า และปลอดภัยกว่าควรเลือกใช้ก่อนกัญชา ส่วนที่นำผลิตภัณฑ์กัญชาไปใช้เพื่อการรักษาโรคทางผิวหนังนั้น ต้องยอมรับว่ากำลังมาแรงในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกมาก ประเทศไทยจึงควรมุ่งวิจัย รวมทั้งพัฒนารูปแบบของยาเพื่อให้นำส่งยาได้ดีเช่น ยกตัวอย่างบริษัท zynerba pharmaceutical ที่กำลังพัฒนารูปแบบยาที่นำส่งผ่านผิวหนัง เนื่องจากศึกษาพบว่า CBD สามารถถูกเปลี่ยนเป็น THC ในกระเพราะอาหาร ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา
ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเติบโตของตลาดกัญชา คือ ผลข้างเคียง และความสามารถของกัญชาที่จะใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ รวมถึงสังคมผู้สูงอายุและการวิจัย ซึ่งประเทศไทยต้องให้ความสำคัญ จากการคำนวณในเบื้องต้นของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า ยาน้ำมันกัญชา 1 ล้านขวด ใช้กัญชาเพียง 40-50 ไร่เท่านั้น เพราะเป็นพืชที่ใช้เพียงน้อยก็ได้ผลแล้ว ดังนั้นการส่งเสริมให้เป็นอุตสาหกรรมวงกว้างน่าจะทำได้ลำบาก
“ส่วนการส่งเสริมกัญชงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมีโอกาสนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ความงาม และยาที่มี CBD เด่นได้ ในต่างประเทศเมล็ดกัญชงสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในอาหาร เนื่องจากมีโอเมกาสูง เส้นใยเอามาทำอุตสาหกรรมสิ่งทอ ไฟเบอร์กลาสของรถยนต์เพื่อประหยัดพลังงาน แกนนำมาทำอิฐมวลเบา ทำให้อาคารไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป การพัฒนากัญชงจึงต้องพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นๆควบคู่กัน” ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าว
ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามตนเองเคยไปอิตาลี และได้ทราบว่าทางการอิตาลีก็กำลังควบคุมร้านจำหน่าย CBD เพราะตรวจพบว่าสารสกัด CBD บางเจ้ามี THC สูงกว่ากำหนด อาจส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนได้ ประเทศไทยหากจะเดินทางไปทางนี้ต้องมีเครื่องมือในการตรวจ THC และ CBD ที่รวดเร็วและกลไกการลงโทษผู้ที่กระทำผิดให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี