วันที่ 31 สิงหาคม 2562 คืบหน้าคดีคนร้ายเข้าไปลอบวางเพลิงเผารถเก็บขยะ ยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน 80 - 8237 ตรัง ที่จอดอยู่บริเวณด้านหลัง อบต.เกาะสุกร กลางดึกวันที่ 31 สิงหาคม การสืบสวนเบื้องต้นทราบรูปพรรณสันฐานของคนร้ายว่าจำนวน 1 คน รูปร่างสูง ลักลอบเข้าไปราดน้ำมันจุดเพลิงเผารถและคาดว่ามีการทำเป็นขบวนการ เพราะมีการดึงปลั๊กไฟเชื่อมต่อกับวงจรปิดทั้ง 8 จุดของ อบต. เพื่อไม่ให้กล้องวงจรปิดทำงานจับภาพคนร้ายได้ และมีการปิดสวิทไฟฟ้าดวงส่องสว่างมาที่จุดจอดรถด้วย  

ต่อมา พล.ต.ต.นุกูล  ไกรทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ. สิทธินันท์  สังฆพันธุ์ ผู้กำกับการสภ.ปะเหลียน นำเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ร่วมลงพื้นที่ทำงานสืบสวนสอบสวนแกะรอยคนร้ายร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ปะเหลียนด้วย  เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน โดยมีการเชิญตัวบุคคลที่ที่เกี่ยวข้องภายใน อบต.ทุกคนมาสอบปากคำ ทั้งนางราตรี จิตรหลัง นายก อบต.,แม่บ้าน ซึ่งเป็นคนถือกุญแจ สำนักงาน อบต.จำนวน 2 ชุด แต่เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ได้มีคนงานมาขอกุญแจไปจากแม่บ้านคนดังกล่าว สอบปากคำคนงานที่มาขอกุญแจไปจากแม่บ้าน สอบปากคำคนที่มีรายชื่อเข้าเวรยาม แต่ไม่เข้าเวร  เพื่อไล่เรียงทุกคน

เพราะเชื่อว่าจะต้องมีการวางแผนการทำงานกันอย่างดี และอาจทำเป็นขบวนการ เพราะมีการไขกุญแจเข้าไปถอดปลั๊กไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเข้ากับกล้องวงจรปิดและกล่องบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิดทั้งหมดของ อบต.ที่มีรวม 8 ตัว   เพื่อตัดสัญญาณไม่ให้ทำงานทั้งหมด  ทำให้ช่วงเกิดเหตุกล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ และมีการถอดปลั๊กไฟฟ้าที่ส่องสว่างบริเวณด้านหลังอบต.จุดที่จอดรถขนขยะ ทำให้มืดมองไม่เห็น และไม่มีคนเข้าเวรยาม  โดยหลังมีการสอบปากคำหลายๆคนใน อบต.ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบตัวบุคคลต้องสงสัยที่ดำเนินการในเรื่องนี้ หรือบงการในเรื่องนี้แล้ว คาดจะได้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้

พล.ต.ต.นุกูล กล่าวหลังพูดคุยกับผู้ว่าฯแล้วว่า จะต้องดำเนินการให้ได้ภาย 7 วัน ตามข้อสั่งการของผู้ว่าฯ โดยมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและประสานฝ่ายปกครอง เร่งทำงานแกะรอยจับกุมคนร้ายให้ได้

ขณะที่ นายลือชัย  กล่าวว่า มาตรวจสอบที่เกิดเหตุสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการใน 4 เรื่อง คือ 1.การสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อรู้ให้ได้เหตุการที่เกิดขึ้นมีใครบกพร่องตรงไหน ปล่อยให้เกิดเหตุได้อย่างไร  เพื่อนำไปใช้ร่วมกับพนักงานสอบสวนด้วย 3.ให้ฝ่ายปกครองผู้รับผิดชอบเรื่องการตรวจตรา ให้กำนัน และปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบตำบลดำเนินการรีเอ็กซเรย์ทุกจุด หาข่าวในเชิงลึก ตนเองจะต้องมาจัดระเบียบปัญหาภายใน อบต.อย่างเคร่งครัดต่อไป และ4.อบต.บกพร่องตรงไหน เรื่องเวรยาม ให้อำเภอตั้งกรรมการสอบใครบกพร่องตรงไหนอย่างไร จะต้องถูกดำเนินการ

นายลือชัย กล่าวอีกว่า จากการสอบถามทราบว่าในช่วงเกิดเหตุไม่มีการอยู่เวรยาม ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย  โดยยืนยันจะเอาคนทำมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้อย่างเด็ดขาด หากพบเป็นเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการมีเอี่ยวในการกระทำดังกล่าว จะไล่ออกสถานเดียว นอกจากถูกดำเนินคดีในข้อหาหนักฐานวางเพลิง หรือร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของทางราชการ  โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ทั้งนี้ สาเหตุเชื่อว่าเกิดจากปัญหาขัดแย้งภายในของ อบต. แน่นอน  หรืออาจจะเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

 “ผมให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 7 วัน เชื่อว่าจะได้ภาพความชัดเจนนำสู่การจับกุมหรือออกหมายจับได้  ทั้งนี้ ต้องเร่งทำและตนเองไม่ยอมอย่างเด็ดขาด เพราะคนร้ายก่อเหตุ 2 เหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกัน คือ วันที่ 13 สิงหาคม คนร้ายวางเพลิงเผาเรือกู้ภัยทางทะเลของ อบต.วอดไป 1 ลำ และมาก่อเหตุซ้ำเผารถขนขยะ อบต.อีก เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง โดยทางจังหวัดมีแผนจะพัฒนาเกาะสุกรในหลายเรื่อง แต่มาเกิดเหตุแบบนี้จะต้องคลี่คลาย และจับคนร้ายให้ได้ หากมีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ร่วมด้วย  จะไล่ออกสถานเดียวเท่านั้น” นายลือชัย กล่าว