นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวในการบรรยาย “สตง.ยุคใหม่ เพื่อนคู่ใจ
ท้องถิ่น” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น 12 ปี กปท. เดินหน้า พลังท้องถิ่นไทย รอบรู้ สร้างสุขภาพ อย่างยั่งยืน ว่า หลังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ สตง. ได้มีการทบทวนบทบาทหน้าที่ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญของหน่วยงานต่างๆ

โดยพบว่าหน้าที่ของ สตง. คือการทำให้การใช้จ่ายเงินของแผ่นดินเกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้มีการปรับหรือลดทอนบทบาทต่างๆ เพื่อความคล่องตัวในการทำงานของหน่วยงานรัฐมากขึ้น สืบเนื่องจากที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อาจไม่มั่นใจและลังเลว่าการใช้จ่ายงบประมาณจะถูกต้องตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการหรือไม่ จึงไม่กล้าใช้จ่ายแม้จะมีแนวคิดและเจตนาดีต้องการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนก็ตาม

แต่ปัจจุบัน สตง. ได้กำหนดแนวทางและปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 มาตรา 57 ได้ระบุไว้ว่าในกรณีที่หน่วยรับตรวจมีการสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าที่จะต้องตอบข้อสอบถามโดยเร็ว และไม่ช้ากว่า 30 วัน และในกรณีที่หน่วยรับตรวจได้ปฏิบัติตามแล้ว ยังมิให้ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอีกด้วย

นายประจักษ์ กล่าวต่อไปว่า ทาง สตง. จะไม่ภูมิใจกับผลงานการตรวจพบตัวเลขการทุจริต หรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่จะดีใจเมื่อตัวเลขเหล่านั้นลดลงจนเป็นศูนย์ ดังนั้นหาก สตง. ทำหน้าที่ตรวจสอบเพียงอย่างเดียวก็จะเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องมากมาย จึงต้องมีบทบาทให้คำปรึกษาให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามกฎหมายและบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วย ไม่ว่าจะท้องถิ่น ราชการ หรือรัฐวิสาหกิจควบคู่กันไปด้วย จึงขอให้มั่นใจว่า สตง. จะเดินทางไปด้วยกัน ไม่อยู่คนละฝั่งคอยแต่จับผิด แต่มีทัศนคติที่จะทำให้สิ่งผิดพลาดได้รับการแก้ไข

“ถ้าหลายระเบียบเป็นอุปสรรคปัญหาของการทำงาน ทาง สตง. หรือทุกภาคส่วนเองต่างพร้อมช่วยกันปรับปรุงเพื่อให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น จึงขอให้มั่นใจ ถ้าเรามีเจตนารมณ์เดียวกันในการทำให้เงินทุกบาทของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุด ก็ต้องมาร่วมมือกัน ไม่อยากให้มองว่า สตง. อยู่ต่างฝ่าย ไม่สนประโยชน์ภาพรวมทำงาน คอยแต่จะจับผิด เพราะเราไม่ได้หยุดแค่นั้น” นายประจักษ์ กล่าว

ผู้ว่าการ สตง. ยังกล่าวอีกว่า ในการดำเนินงานของกองทุนต่างๆ ของท้องถิ่นต่างๆ นอกจากความถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ หรือแบบแผนที่กำหนดไว้แล้ว ยังจะต้องดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นปลายทาง สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการทำโครงการ ไม่ให้มีอะไรที่ต้องสูญเปล่า สตง. จะเป็นเพื่อนของทุกหน่วยงานในการช่วยตอบคำถาม ตอบข้อสงสัยว่าจะทำงานอย่างไร หรือมีทางเลือกอะไรที่สามารถทำได้บ้าง และจะดึงเวลาไม่ได้

ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าถ้าหน่วยงานมีเจตนาดี อยากทำให้ถูกต้อง ก็ขอให้สอบถามมาได้ ทาง สตง. จะตอบแบบมีคำตอบให้ หรือหากบางเรื่องมาเป็นหนังสือแล้วสร้างความเข้าใจได้ไม่หมด ก็สามารถเข้ามาพบปะพูดคุยโดยตรง หรือหากต้องการหนังสือยืนยันคำตอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้ก็ยินดีเช่นกัน ความไม่มั่นใจในการทำงานต่างๆ 
สตง.จะแก้ไขในทุกหน่วยงานสามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ