‘ดีเปรสชั่น’อีกลูกต่อคิว

ถล่มภาคอีสาน

กรมอุตุเตือนพร้อมรับมือ

ฤทธิ์โพดุลจมบาดาล15จว.

นายกฯสั่งทุกฝ่ายช่วยเหลือ

ปภ.สรุป 24 จังหวัด รับผลกระทบอิทธิพลพายุโพดุล ยังมีสถานการณ์ ใน 15 จังหวัด หลายจังหวัดยังน่าห่วง ทั้งร้อยเอ็ด ขอนแก่น ที่อ.บ้านไผ่เกิดเหตุเศร้าหนุ่มถูกไฟช็อตดับ ขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำ สกลนครน้ำป่าซัดชายวัย 52 หายไปกับกระแสน้ำเชี่ยว อุตุฯออกประกาศเตือนดีเปรสชั่นลูกใหม่เคลื่อนเข้าไหหลำ กระทบอีสานของไทย ทำฝนหนักอีกระลอก2-3กันยายน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยแถลงสรุปผลกระทบจากพายุโซนร้อน “โพดุล” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ทำให้หลายพื้นที่ของไทยเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลัน ดินสไลด์ว่า จนถึงขณะนี้มี 24 จังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวคือ อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร และแม่ฮ่องสอน รวม 64 อำเภอ 148 ตำบล 356 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,663 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ที่จ.ชัยภูมิ

โพดุลถล่ม24จว.-15จว.ยังจม

ทั้งนี้ ยังคงมีสถานการณ์ใน 15 จังหวัด ได้แก่ แพร่ น้ำไหลหลากเข้าท่วม 2 อำเภอคือ อ.ร้องกวาง และอ.ลอง รวม 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 35 ครัวเรือน เพชรบูรณ์เกิดน้ำท่วม 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนแดน วังโป่ง เมืองเพชรบูรณ์ หนองไผ่ และเขาค้อ รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนอพยพ 140 คน พิษณุโลก น้ำหลากท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เนินมะปราง วังทอง นครไทย และชาติตระการ รวม 13 ตำบล 73 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,510 ครัวเรือน

อุตรดิตถ์ น้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำปาด ท่าปลา และฟากท่า รวม 5 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 107 ครัวเรือน พิจิตร น้ำไหลหลากข้าท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สามง่าม ทับคล้อ วังทรายพูน และสากเหล็ก รวม 7 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน เชียงใหม่ เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ฮอด อมก๋อย แม่แจ่ม และจอมทอง รวม 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน อำนาจเจริญ น้ำหลากเข้าท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หัวตะพาน และอ.เมืองรวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 65 ครัวเรือน ชัยภูมิ น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง และแก้งคร้อ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน มุกดาหาร เกิดน้ำไหลหลากและวาตภัยใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ดงหลวง หนองสูง นิคมคำสร้อย ดอนตาล หว้านใหญ่ และอคำชะอี รวม 32 ตำบล 33 หมู่บ้าน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ยโสธร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอป่าติ้ว รวม 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 847 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,080 ไร่ ขอนแก่น น้ำจากลำห้วยจิหลากเข้าท่วมต.บ้านไผ่ และต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ ประชาชนอพยพ 516 คน

กาฬสินธุ์ น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ห้วยเม็ก และหนองกุงศรี รวม 8 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 410 ครัวเรือน อุบลราชธานี น้ำไหลหลาก เข้าท่วม 9 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำขุ่น น้ำยืน อ.เมืองกุดข้าวปุ้น เขื่องใน เขมราฐ พิบูลมังสาหาร ตระการพืชผล และโขงเจียม รวม 18 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 798 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ร้อยเอ็ด น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เสลภูมิ โพธิ์ชัย เมยวดี และอ.เมือง รวม 12 ตำบล 38 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 4,110 ไร่ มหาสารคาม น้ำท่วมอ.เมือง ประชาชนได้รับผลกระทบ 40 ครัวเรือน โดยสถานการณ์ภาพรวมปัจจุบันทุกพื้นที่ระดับน้ำลดลง แต่ปภ.ประสานจังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น พร้อมเร่งระบายน้ำออก อีกทั้ง ยังย้ำประกาศเตือนให้ระวังฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่อง

นายกฯสั่งทุกหน่วยเร่งช่วยปชช.

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุลใกล้ชิด รวมทั้งกำกับดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงเกือบทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ จากนี้ต้องเร่งสำรวจความเสียหายทั้งอาคาร บ้านเรือน และพื้นที่เกษตรกรรม โดยกำชับทุกหน่วยงาน บูรณาการร่วมกันใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหาย นายกฯยังย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป โดยให้เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

‘อนุทิน’ขับเครื่องบินตรวจร้อยเอ็ด

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ขับเครื่องบินส่วนตัว นำคณะพร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย และอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จ.ร้อยเอ็ด นำชุดยารักษาโรคและสิ่งของช่วยเหลือไปมอบให้ที่จุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านท่าเยี่ยม ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ และจุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านไค่นุ่น ต.นาแซง อ.เสลภูมิ และไปตรวจสภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บ้านไค่นุ่นตำบลนาแซง อำเภอเสลภูมิ โดยกระทรวงสาธารณสุข ส่งยาและเวชภัณฑ์ ทั้งชุดยังชีพ ยาชุดช่วยผู้ประสบภัย ยารักษาน้ำกัดเท้า เสื้อชูชีพ หน้ากากอนามัยไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่

เพิ่มเครื่องสูบน้ำกู้เทศบาลเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ร้อยเอ็ดว่า นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด สั่งระดมเครื่องสูบน้ำติดตั้งเพิ่มอีก 5 จุด เร่งระบายน้ำในพื้นที่วงแหวนรอบเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดลงอ่างเก็บน้ำธวัชชัย เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ นายวันชัยยังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมผลจากน้ำในลำน้ำล้นตลิ่งท่วมเขตเทศบาล ซึ่งขณะนี้พื้นที่อ.เมืองร้อยเอ็ดระดับน้ำยังทรงตัว

พนังกั้นน้ำพัง5จุดนาสวนจมเพียบ

นอกจากนี้ ใน 3 อำเภอ 11 ตำบล 37 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เสลภูมิ อ.โพธิ์ชัย และอ.เมยวดีสถานการณ์อุทกภัยยังทรงตัวต้องเฝ้าระวัง พื้นที่เกษตรนาข้าว พืชสวนพืชไร่ถูกน้ำท่วมขังมากกว่า 4 พันไร่ ถนน สะพาน พนังกั้นน้ำ 5 แห่งถูกน้ำซัดพังเสียหาย โดยสถานการณ์ลำน้ำยัง ที่อ.เสลภูมิ ยังรุนแรง ระดับน้ำสูงกว่าคันพนังกั้นน้ำและเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรพนังกั้นน้ำขาดหลายจุด เส้นทางการจราจร จังหวัดร้อยเอ็ดได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูงต้องปิดการจราจร

ขอนแก่นทรงตัว-ผู้ว่าฯแจกถุงยังชีพ

เช่นเดียวกับ ที่จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำคณะและภาคเอกชนนำข้าวกล่องน้ำดื่มแจกให้ประชาชนที่เดือดร้อน และร่วมประเมินสถานการณ์อุทกภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเน้นวางแผนรับมือวันต่อวัน ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในอ.บ้านไผ่น่าเป็นห่วง พื้นที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ 3 ชุมชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยนายสมศักดิ์เผยว่า ในอ.บ้านไผ่ ยังมีน้ำหลากเข้าท่วมในพื้นที่ต่อเนื่อง แต่ก็ยังถือว่าทรงตัวและลดลงเนื่องจากในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่มีฝนตกลงมาและถนนทุกสายที่เคยถูกน้ำท่วม เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ

ไฟช็อตหนุ่มดับไปช่วยขนของ

ขณะเดียวกัน เกิดเหตุเศร้าใจ หนุ่มวัย 20 ปีชาวอ.บ้านไผ่ ช่วยเพื่อนบ้านขนย้ายของหนีน้ำ แต่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสราวุธ จันโทแพง อายุ 20 ปี สอบถามนางศิลากร จันโทแพง อายุ 43 ปีมารดาทราบว่า นายสราวุธ บุตรชาย เสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าชอร์ตขณะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งรู้สึกข้องใจมากว่าพื้นที่ชุมชนบ้านไผ่โดนน้ำท่วม ทำไมหน่วยงานภาครัฐจึงไม่ตัดกระแสไฟฟ้า หลังเกิดเหตุขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้แจ้งการไฟฟ้าทำการตัดไฟ เพื่อจะได้หาร่างของลูกชายที่โดนไฟฟ้าชอร์ตจนร่างจมลงไปในน้ำ เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถส่งตัวไปโรงพยาบาลบ้านไผ่เนื่องจากโดนน้ำท่วม ต้องส่งไปโรงพยาบาลโนนศิลา ซึ่งส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลพล ปรากฏว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว วันนี้ (1 กันยายน) น้ำลดระดับลงแล้วจึงได้ติดต่อทางโรงพยาบาลเพื่อขอรับศพลูกชายกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน

บึงกาฬดินสไลด์-รพ.เซกาจม

ที่ จ.บึงกาฬ ยังคงเกิดฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในอ.บึงโขงหลง และ อ.เซกา เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของ นอกจากนี้ ยังเกิดดินสไลด์ใส่โรงเรือนไส้เดือน บริเวณบ้านโนนหนาม หมู่ 2 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง เสียหาย ไส้เดือนถูกพัดหายไปกับสายน้ำ บริเวณบ้านพักของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ มีน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกรอกกระสอบทรายวางป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมอีก และเช้าวันนี้ยังมีบางหมู่บ้านที่เริ่มมีน้ำท่วมขัง พระสงฆ์ต้องลุยน้ำบิณฑบาต

สกลนครน้ำป่าซัดชายจมหาย

ที่ จ.สกลนคร ฝนสะสมและน้ำจากเทือกเขาภูพานที่มีปริมาณน้ำสูงส่งผลให้ระดับน้ำในฝายห้วยอูน บ้านหนองสะไน ต.โพนงาม อ.กุดบาก จ.สกลนคร เพิ่มสูงขึ้นรวดเร็ว ไหลแรงและเชี่ยว ได้ซัดร่างนายดวล หาไชย อายุ 52 ปี ที่เดินข้ามฝาย จมหายไปกับสายน้ำ ชุดกู้ภัยและชุดประดาน้ำระดมกำลังค้นหา ท่ามกลางความมืด แต่เนื่องจากสภาพของน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เจ้าหน้าที่จึงยุติการค้นหาชั่วคราว

มุกดาหารเริ่มคลี่คลายแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร เริ่มคลี่คลาย น้ำที่เคยท่วมสูงกว่า 1 เมตร ระบายลงแม่น้ำโขง และลดลงต่อเนื่อง บางจุดกลับสู่สภาวะปกติแล้ว โดยทิ้งสภาพความเสียหายไว้ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเทศกิจ อปพร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือบ้านเรือนราษฎร วัดป่าศิลาวิเวก เก็บกวาดขยะ ล้างโคลน และขนสิ่งของกลับเข้าบ้าน บขส. กลับมาเดินรถได้ตามปกติทุกเส้นทางแล้ว ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.มุกดาหาร ล่าสุดวัดที่ศูนย์อุทกวิทยาที่ 3 (มุกดาหาร) อยู่ที่ 9.07 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 3.43 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1 เซนติเมตร โดยระดับวิกฤติอยู่ที่ 12.50 เมตร

แม่ฮ่องสอนน้ำป่าถล่มรพ.โพซอ

อีกด้านหนึ่ง ที่จ.แม่ฮ่องสอน สถานการณ์ฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากยังน่าเป็นห่วง โดยนายเรืองฤทธิ์ ผลดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอนเผยว่า รับแจ้งจากนายสายัณห์บำรุงพนัสผู้ใหญ่บ้านโพซอ หมู่ที่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง เกิดน้ำไหลหลากในลำน้ำแม่แงะเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรเสียหายหนัก ดินสไลด์ต้นไม้ล้มขวางเส้นทางแม่สะเรียง-บ้านโพซอ รวม 39 จุดโดยในพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงประสานเจ้าหน้าที่เทศบาล อบต.ทหารตำรวจเข้าช่วยเหลือ นอกจากนี้ ช่วงกลางดึกวันที่ 1 กันยายน เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโพซอหมู่ที่ 5 อ.แม่สะเรียง ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์วัสดุต่างๆที่อยู่ชั้น 1ของอาคารได้รับความเสียหายทั้งหมดรวมทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ของทางราชการถูกน้ำท่วมและน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ทางจังหวัดระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน

อุตุฯเตือนดีเปรสชั่นจ่ออีกลูก

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 1 เตือนพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยเวลา 07.00 น. พายุมีจุดศูนย์กลางห่างไปทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประมาณ 700 กิโลเมตร และเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำช่วงวันที่ 2-3 กันยายน ส่งผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

ทั้งนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ทำให้ภาคใต้และภาคตะวันออกมีฝนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณดังกล่าวมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนงดออกจากฝั่ง