4 กันยายน 2562 จากฝนที่ตกต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโพดุลและพายุคาจิกิ ส่งผลให้จังหวัดมหาสารคามมีฝนตกหนักและตกต่อเนื่องมานาน 5 วัน  ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในนาข้าวและบนถนนทางเข้าหมู่หลายจุด  โดยเฉพาะที่บ้านลุมพุก และบ้านคอกม้า ต.โคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม โดยน้ำได้บ่าเข้าท่วมเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ระดับความลึกสุดอยู่ที่ 50 เซนติเมตร  รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านเข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วมจนมองไม่เห็นต้นข้าว ซึ่งหากน้ำไม่ลดลงภายใน 7 วัน นาข้าวจะเสียหาย 

ด้าน ร.ต.อ.ตนุพล พันธ์สวัสดิ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธรณภัยจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักในพื้นที่จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโพดุล และพายุดีเปรสชั่นคาจิกิ  ทำให้จังหวัดมหาสารคาม ได้รับผลกระทบเกิดน้ำท่วมขังหลายแห่ง ถนนเส้นทางหลักเสียหาย 25 จุด ต้องปิดการสัญจร 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทาง ทช. มค.4007 เส้นทาง (บรบือ-วาปีปทุม-นาดูน)  น้ำท่วมทางระยะ 1,000 เมตร ระดับน้ำลึก 1 เมตร  2. เส้นทางถนนโยธาธิการและผังเมือง รอบบึงกุย ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กระแสดน้ำพัดถนนขาด คอสะพานชำรุด และ 3 เส้นทางถนน อบจ. มหาสารคาม (บ้านเขวาไร่-บ้านหนองบาก) ต.สำโรง อ.นาเชือก กระแสน้ำพัดถนนขาดระยะทาง 30 เมตร

จากรายงานความเสียหายรายอำเภอ  ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2562 มีอำเภอที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ 41 ตำบล  313 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 1,098 คน 12,069 ครัวเรือน ที่อยู่อาศัยเสียหาย 133 หลัง บ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม 263 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 164,709 ไร่ บ่อปลา 22 บ่อ คอกสัตว์ / โรงเรือน 21 หลัง และโรงเรียน 3 แห่ง 

ทั้งนี้สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือระดับในแม่น้ำชีที่จะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยได้แจ้งประกาศเตือนประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยติดริมสองฝั่งแม่น้ำชี  ให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนใกล้ระดับวิกฤต และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด