มทภ.2ชงสมช.ปิด'ปราสาทตาเมือนธม'ได้ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี​ ย้ำจุดยืนเปิดด่านพร้อมกัน

มทภ.2ชงสมช.ปิด'ปราสาทตาเมือนธม'ได้ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี​ ย้ำจุดยืนเปิดด่านพร้อมกัน

วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 11.19 น.

‘ภูมิธรรม’บอก​แม่ทัพภาค 2 ชง สมช.ปิดปราสาทตาเมือนธมได้ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี​ ไม่ต้องเติมกำลังเพิ่ม เหตุมีเยอะอยู่แล้ว ย้ำจุดยืนเปิดด่านต้องเปิดพร้อมกัน

เมื่อวันที่ 24  มิถุนายน  ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายภูมิธรรม  เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชามาเที่ยวที่ปราสาทตาเมือนธมอย่างมีนัยสำคัญ สถานที่ดังกล่าวไม่สามารถที่จะปิดเองได้ต้องรอคำสั่งจากหน่วยงานใช่หรือไม่ว่า อำนาจที่แท้จริงอยู่ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่ควบคุมส่วนต่างๆอยู่แล้ว เวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น รัฐบาลรับรู้ทั้งหมด และก่อนหน้านี้ สมช. ได้มอบอำนาจให้กองทัพบก โดยให้ทหารซึ่งเป็นด่านหน้า ได้พิจารณาสถานการณ์ว่ามากน้อยหรือรุนแรงมากแค่ไหน โดยขณะนี้นี้ยังใช้มตินี้อยู่


ผู้สื่อข่าวถามว่า บริเวณประสาทตาเมือนธม ให้อำนาจทหารที่อยู่ในพื้นที่เป็นตัดสินใจให้ปิดหรืออนุญาตให้ท่องเที่ยวใช่หรือไม่  นายภูมิธรรมกล่าวว่า  ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ  ยังไม่มีการห้ามหรือไม่ห้าม ตรงปราสาทตาเมือนธมที่ผ่านมาสามารถขึ้นได้ทั้งสองฝ่าย  ดังนั้น ขนาดนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยกเว้นแต่มีคำสั่ง ซึ่งเป็นเรื่องของแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 และกองกำลังจันทบุรีเป็นผู้ตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม การปฎิบัติจะต้องหารือร่วมกันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากัน  เพราะมีทั้งชาวกัมพูชาและคนไทยที่ขึ้นไปท่องเที่ยว ภูมิธรรมกล่าวว่า  เชื่อว่าทางทหารจะสามารถและประสานงานได้ นักท่องเที่ยวขึ้นมาตามปกติ และเมื่อถึงเวลาก็ลงตามปกติ ซึ่งสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ที่แม่ทัพภาคที่ 2 จะพิจารณาตามความเป็นจริง

ถามย้ำว่า เป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่สองเป็นผู้ตัดสินใช่หรือไม่  นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงพิจารณาแล้วนำหารือกับกองทัพบก รัฐบาล สมช.  ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ อำนาจอยู่ตรงนี้ให้กองทัพภาคที่สองไปดู แล้วทำเลยก็ได้ แต่ในทางปฏิบัติ เราได้บอกและกำกับวิธีการทำงานไปแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้รับรายงานหลังจากที่ไทยยกระดับมาตรการ ขึ้นมาอีกระดับหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า หากดูจากบรรยากาศในพื้นที่ ประชาชนในชายแดนก็ถึงขนาดเครียดจนแบบน่ากังวลใจ เมื่อวานนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการ  ซึ่งเราจะดำเนินการทำหลุมหลบภัยให้กับพี่น้องประชาชน โดยให้กระทรวงมหาดไทยไปดูเรื่องความแข็งแรงมากขึ้น

ถามว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไทยต้องยกระดับการเพิ่มขึ้น  เพราะทหารกัมพูชาเติมกำลังคนและเติมพลังอาวุธ เข้าไปในพื้นที่ มองว่ามีนัยอะไรหรือไม่  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่ทหารกัมพูชามีอยู่นั้น ไม่ต้องเติมเพราะมีเยอะอยู่แล้ว  ซึ่งไม่ใช่สาระที่น่ากลัว  เพราะสิ่งที่เขาทำก็เติมเต็มอยู่แล้ว  ขณะที่ทางการไทยก็เตรียมกำลังไว้ตั้งแต่มีการเผาศาลาตรีมุข  เพราะขณะนั้นกองทัพภาค 2  ต้องไปฝึกกำลังที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตนจึงได้ปรึกษากับผู้บัญชาการทหารบกให้ฝึกซ้อมในพื้นที่ ไม่ต้องเคลื่อนกำลังออกมา และเราก็ได้มีการเสริมกำลังพอสมควรแล้ว ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์จะเห็นว่า เราไม่ได้เติมกำลังอะไร เพราะแค่ที่มีก็เต็มกำลังอยู่แล้ว มีการเตรียมการก่อนเกิดเหตุดังกล่าวนี้กว่า 6-7 เดือนแล้ว ซึ่งมีกองกำลังอยู่จำนวนเยอะแล้วแต่ไม่ขอบอกตัวเลข

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวไทย ขึ้นไปยังพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม โดยไม่ได้แจ้งกัมพูชาล่วงหน้า โดยกองทัพกัมพูชาระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายอย่างชัดเจน เหตุใดทางกัมพูชา จึงเข้าใจว่าประสาทตาเมือนธมเป็นของตัวเอง  นายภูมิธรรมย้อนถามกลับว่า  ทำไม แปลกใจหรือ  ตนไม่เห็นแปลกใจเลย เพราะเขาอ้างว่าเป็นของเขา เขาก็ต้องคิดแบบนั้นอยู่แล้ว เราก็อ้างของเราถึงได้ทะเลาะกัน  ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เขาจะเรียกร้องอยู่แล้ว  มันถึงได้เป็นพื้นที่ที่มีปัญหา เขาเคยขึ้นมาอยู่แล้ว ทุกคนเคยขึ้น ซึ่งข้อตกลง MOU 2543 ทุกคนสามารถขึ้นมากราบพระ  เมื่อขึ้นมาก็ต้องลงไปเหมือนกันทุกส่วน แต่ขณะนี้เวลาขึ้นมาแล้ว มาแสดงสัญลักษณ์ แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งตรงนี้เราได้ประท้วง ยืนยันว่าไม่ให้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ และที่ผ่านมาเรามีการประท้วงแบบลายลักษณ์อักษรทั้งหมด

ถามถึงกรณีนายสมชัย​ ศรีสุทธิยากร​ ออกมาระบุว่า นายภูมิธรรม​ เซ็นรับรองให้ทหารกัมพูชา​ เข้ามาอยู่ในปราสาทตาเหมือนธม ในการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป​ หรือ GBC ครั้งล่าสุด​  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปเซ็นอะไร ทุกอย่างทำตาม MOU 43​ ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอน การประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาค ไทย​-กัมพูชา หรือ  RBC​ ซึ่งกัมพูชา รอฮุนเซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชาอนุมัติ​  พร้อมกับขอนายสมชัยอย่าพูดอะไรบนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายฮุนมาเนต  นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ไทยเปิดด่านชายแดนก่อน แล้วกัมพูชาจะเปิดตามใน 5 ชั่วโมง แล้วจะกำลังค่อยหารือเรื่องการปรับกำลัง นายภูมิ​ธรรมกล่าวย้ำว่า   เรามีเงื่อนไขและข้อเสนอที่วางไว้คือ ลดการเผชิญหน้าตลอดแนวชายแดน ให้ปรับกำลังทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเปิดด่านชายแดนทั้งหมด เพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ต้องทำไปพร้อมกันทั้ง 2 ประเทศ โดยการกำหนดวัน​-เวลา ซึ่งฝั่งกัมพูชาบอกว่าอำนาจทุกอย่างอยู่ที่ฮุนเซนเพียงคนเดียว ก็ยอมรับว่าได้เสนอเงื่อนไขตามนั้นจริง​ ซึ่งในส่วนของเรา บอกว่าเป็นไปไม่ได้จุดยืนของเราต้องดำเนินการคือให้ปรับกำลังก่อนเปิดด่านพร้อมกัน​

"จะมาบอกว่าคุณเปิดก่อน เราเปิดก่อนคงไม่ได้​ เพราะตอนนี้มันมั่วไปหมดแล้ว ก็ควรจะทำให้พร้อมกัน" นายภูมิธรรมกล่าว  และย้ำว่า​ การที่ไทยจะทำอะไรนั้น ต้องคำนึงถึงสายตานานาประเทศด้วย เพราะเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า เพื่อป้องกันข้อครหาว่าเรารุกรานเขา​ ขณะเดียวกันเราก็ยังยืนอยู่ในการประชุม RBC​ ที่จะเกิดขึ้น​

 

ถามว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องไปพูดคุยกับฮุนเซนเพื่อให้ได้ข้อยุติเรื่องการเปิดด่านพร้อมกันใช่หรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว การจะเปิดด่านเป็นเรื่องของที่ประชุม  RBC​ ส่วนที่กัมพูชาปิดประตูตายจะไม่ประชุมนั้น มันสามารถพูดคุยและเจรจาได้ คำพูดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อมีปัญหา หรือมีประโยชน์ ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุย  เชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top